คืบหน้ากรณีตำรวจจับ “เสี่ยอ้วน” คนสั่งการรัวฆ่าอุกอาจ 2 ศพ ที่เขาชีจรรย์ หลังหลบซ่อนตัว ที่ชายเเดนกัมพูชา-เวียดนามเตรียมควบคุมตัวกลับมาดำเนินคดีในไทย
หลังจากตำรวจกัมพูชา ได้จับกุม นายปัญญา ยิ่งดัง หรือ “เสี่ยอ้วน” อายุ 39 ปี เจ้าของสถานบันเทิงใน จ.ภูเก็ต ผู้ต้องหาหลบหนีหมายจับ คดีเป็นคนสั่งการ และร่วมกับสมุน ก่อเหตุยิง น.ส.ปวีณา นาเมืองรักษ์ หรือ สปาย อายุ 20 ปี และนายอนันตชัย จริตรัมย์ หรือ ฟอส อายุ 21 ปี เพื่อนสนิท ที่ลานจอดรถตรงข้ามพระพุทธรูปแกะสลักหน้าผาเขาชีจรรย์ ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เกิดเหตุเมื่อวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา โดนปมสังหารโหดครั้งนี้ สันนิษฐานว่า เกิดจากที่เสี่ยอ้วนไม่สมหวังในความรักกับสปาย
มีรายงานว่า จากการแกะรอยจนได้ความชัดเจนว่า เสี่ยอ้วนหลบหนีเข้าไปในฝั่งประเทศกัมพูชา ทางตำรวจได้ประสานขอความร่วมมือตำรวจกัมพูชาให้ช่วยสืบสวนและจับกุมเสี่ยอ้วนให้ได้ เนื่องจากเป็นบุคคลที่ก่อคดีอุกฉกรรจ์และสะเทือนขวัญ อีกทั้งมีอาวุธปืน และลูกสมุนอยู่ในฝั่งกัมพูชา
จนกระทั่งช่วงค่ำของวันที่ 15 ส.ค. 61 มีการจับกุมลูกสมุนของเสี่ยอ้วนได้ 3 คน หนึ่งในนั้น คือ “นายน้อย” ที่เปิดปากให้ถึงแหล่งกบดานของเสี่ยอ้วน จนนำไปสู่การเข้าจับกุมที่ จ.ไปรเวง บริเวณชายแดนกัมพูชา-เวียดนาม จากนั้นตำรวจกัมพูชาได้คุมตัวเสี่ยอ้วนมายังกรุงพนมเปญ เพื่อส่งตัวกลับมายังไทยในช่วงเช้าวันนี้
พ.ต.อ.เบญจพล รอดสวาสดิ์ ผกก.ตม.จว.สระแก้ว ยืนยันกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันที่ 15 ส.ค. 61 ว่า ทางการกัมพูชาได้จับตัวเสี่ยอ้วนแล้ว โดยวันนี้ (16 ส.ค. 61) เจ้าหน้าที่กัมพูชา จะนำตัวผู้ต้องหาส่งมาที่กรุงพนมเปญ และพล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ จเรตำรวจแห่งชาติ (ชุดดรีมทีมของ ผบ.ตร.) จะไปรับตัวเสี่ยอ้วนกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย โดยต้องการสอบปากคำอย่างละเอียด
ก่อนหน้านี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ซึ่งมีคอนเนคชั่นอย่างดีกับทางการกัมพูชา วันนี้มีภารกิจเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ภาคอีสาน ได้ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า “ผู้ต้องหาที่หลบหนีหมายจับมีทางเลือก 2 ทาง คือ ทางตัน กับ ทางตาย”
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
