ตำรวจเรียกโชเฟอร์แท็กซี่ให้ปากคำฐานะพยาน เผยเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลพระราม 2 บอกถูกน้ำร้อนมา สังเกตอยู่บนรถอาการหนัก แม้ยังมีสติแต่ไม่พูดอะไร มาได้ยินตอนถึงปลายทางที่บอกเจ้าหน้าที่อีกโรงพยาบาลว่าไม่ไหว
กรณีหญิงสาววัย 38 ปี ถูกสามีวัย 50 ปี เอาน้ำกรดสาดที่ใบหน้าเพราะความหึงหวง โดยหลังได้รับบาดเจ็บหญิงสาวได้ให้ลูกสาววัย 12 ปี พาขึ้นแท็กซี่เพื่อไปโรงพยาบาลแรก ก่อนจะย้ายไปโรงพยาบาลที่ 2 และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
วันที่ 12 พ.ย. เวลา 17.00 น. ที่ สน.ท่าข้าม นายสงัด ดัชชุยาวัตร อายุ 37 ปี คนขับรถแท็กซี่โตโยต้า รุ่นอัลติส สีเหลือง ซึ่งรับตัวหญิงสาวที่ได้รับบาดเจ็บและลูกสาวจากโรงพยาบาลพระราม 2 ไปส่งต่อที่โรงพยาบาลบางมดในวันเกิดเหตุ เข้าพบ พ.ต.ท.สกนธ์ ศรีวัฒนกพงศ์ รอง ผกก.หัวหน้างานสอบสวน สน.ท่าข้าม เพื่อให้การในฐานะพยาน โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
นายสงัด กล่าวว่า ระหว่างรับผู้ป่วยขึ้นรถที่หน้าโรงพยาบาลพระราม 2 พนักงานขนส่งแจ้งตนว่าผู้ป่วยถูกน้ำร้อนลวก ให้พาไปส่งที่โรงพยาบาลบางมด เพราะแพทย์มีการประสานกันไว้แล้ว นายสงัด บอกอีกว่า ตอนนั้นหญิงสาวยังมีสติดีแต่อยู่ในสภาพมีผ้าพันแผลตามใบหน้าและแขน ส่วนบุตรสาวก็คอยเรียกแม่ตลอดซึ่งแม่ก็รับรู้ โดยตนก็ไม่ได้ชวนพูดคุยอะไรเนื่องจากเห็นว่าเป็นผู้บาดเจ็บ โดยใช้เวลาราว 10 นาที ก็ถึง โรงพยาบาลบางมด จากนั้นพนักงานขนส่งผู้ป่วยของโรงพยาบาลบางมดก็ลากเปลมาแล้วสอบถาม ผู้ป่วยว่าไหวหรือไม่ ได้ยินเสียงตอบกลับไปว่า “ไม่ไหว” พนักงานจึงช่วยกันหามขึ้นเปลเข้าไปในโรงพยาบาล ส่วนตนก็ขับรถออกมาตามปกติไม่คิดว่าเหตุการณ์นี้จะเป็นข่าวดังกระทั่งตำรวจเรียกตนมาสอบปากคำในฐานะพยาน
https://www.facebook.com/WorkpointNews/videos/702217770155096/
