
ประเด็น – ศาลนครศรีธรรมราชพิพากษาจำคุกท่านชายกำมะลอแอบอ้างเบื้องสูง ตำรวจเร่งล่าเพื่อนร่วมแก๊งมือวางแผนสร้างเรื่องอุปโลกอีก 1 ราย
ที่ศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช มีรายงานว่าได้ศาลได้มีคำพิพากษาจำคุกนายไกรสีห์ จันทรปัญญา หรือที่รู้จักในหมู่คนที่หลงเชื่อคือ “ท่านชายอ๊อฟ” และ นายพิษณุ อ่ำวงศา ซึ่งรู้จักในนาม “ผู้การ”ทั้งคู่เป็นจำเลยในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ประกอบมาตรา 83 จากกรณีที่นายไกรสีห์ จันทรปัญญา ได้แอบอ้างตัวเองเป็นเชื้อพระวงศ์ชั้นสูง และมีนายพิษณุ อ่ำวงศา สมอ้างตัวเป็นนายทหารติดตามและคอยดูแลฝึกกองกำลังอารักขาพิเศษ

โดยก่อนตกเป็นจำเลยทั้งสองราย พลโทธนเกียรติ ชอบชื่นชม ผู้บัญชาการศูนย์รักษาความปลอดภัย กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้ชุดปฏิบัติการเข้าร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาล และเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช ติดตามพฤติกรรมมาหลายเดือนและได้เข้าจับกุมกลางรีสอร์ทแห่งหนึ่ง ในอำเภอลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อเดือนกันยายน 2559 ซึ่งยังมีผู้ต้องหาอีกรายที่หลบหนีไปต่างประเทศคือนายเพชร อุปถัมภ์ ซึ่งมีพฤติการณ์ในการวางแผน ประสานงานและอุปโลกน์สร้างเรื่องให้ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อเชื่อถือ ซึ่งนายเพชรอยู่ในระหว่างการติดตามตัวของเจ้าหน้าที่ ส่วนนายไกรสีห์และนายพิษณุ ถูกดำเนินคดีตามความผิดมาตรา 112 และพนักงานอัยการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ส่งฟ้องต่อศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช

หลังจากที่นายไกรสีห์ได้พยายามต่อสู้คดีในกระบวนการพิจารณาของศาลมาตลอด 1 ปี โดยล่าสุดนั้นศาลได้พิจารณาพิพากษาจำคุกนายไกรสีห์ จันทรปัญญา ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ประกอบมาตรา 83 โดยการนำสืบให้การเป็นประโยชน์ในชั้นพิจารณาจึงลดโทษ 1 ใน 4 คงเหลือจำคุก 4 ปี
ส่วนพิษณุ ได้นำสืบแสดงให้เห็นว่าถูกหลอกจากนายไกรสีห์หรือท่านชายอ๊อฟ จนหลงเชื่อและเข้ามาดูแลกองกำลังอารักขาพิเศษ โดยไม่มีส่วนรู้เห็นในการอุปโลกเรื่องราวขึ้นมา ศาลเมตตาพิพากษายกฟ้องในส่วนของนายพิษณุ ทำให้นายพิษณุรอดพ้นจากคดี

สำหรับคดีนี้ พลโทธนเกียรติ ชอบชื่นชม ผู้บัญชาการศูนย์รักษาความปลอดภัย กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้เจ้าที่ชุดปฏิบัติการออกสืบสวนติดตามพฤติการณ์ของขบวนการแอบอ้างเบื้องสูงซึ่งได้หลอกหลวงประชาชนในหลายจังหวัดทางภาคใต้ตอนล่างและจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยเจ้าหน้าที่ได้จู่โจมเข้าจับกุม โดยขณะที่จับกุมนั้นยังมีการเรียกชื่ออ้างเป็นท่านชาย อย่างแนบเนียนและถูกบังทึกภาพไว้ตลอดเวลาเป็นหลักฐานสำคัญในคดี จนกระทั่งถูกศาลพิพากษาจำคุกในที่สุด











