
แก๊งโจ๋เหิม ! ขี่จักรยานยนต์บุกจี้ชิงทรัพย์ ลุงวัย 61 ปี ริมถนน ต.บางพลับ จ.อ่างทอง เครื่องมือช่าง รถจักรยานยนต์หายเกลี้ยง แถมนับ 1- 10 สั่งให้ผู้เสียหายหนี ก่อนตะโกนเย้ย “ลุงเข้าใจนะ ชีวิตวัยรุ่น”
วันที่ 25 มิถุนายน 2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.ชูเกียรติ ทัศนัย รองผู้กำกับสืบสวนสอบสวน สภ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง รับแจ้งมีเหตุชิงทรัพย์บนถนนทางเข้าหมู่บ้าน หมู่ที่ 3 ต.อินทประมูล อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.โพธิ์ทอง และเจ้าหน้าที่สมาคมนักวิทยุสมัครเล่นกู้ภัยจังหวัดอ่างทอง เมื่อไปถึง พบนายผัด วงค์แก้วเมือง อายุ 61 ปี อยู่บ้านเลขที่ 74 หมู่ที่ 4 ต.บางพลับ อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง ยืนตกใจอยู่ริมถนน หลังถูกคนร้ายชิงทรัพย์

จากการสอบถามนายผัด เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้าน พร้อมกับกบไฟฟ้า 1 ตัว เพื่อจะไปดูงานที่ตนรับก่อสร้างไว้ ที่ ต.เทวราช อ.ไชโย จ.อ่างทอง ระหว่างทางได้สังเกตเห็นชายวัยรุ่นอายุประมาณ 20-30 ปี ขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า สกู๊ปปี้ สีน้ำเงิน สวมหมวกไอ้โม่ง และสวมเสื้อสีกรมท่า กางเกงขายาวทั้งคู่ ขับตามหลังมา โดยตอนแรกตนไม่เอะใจคิดอะไร จนกระทั่งชายวัยรุ่นดังกล่าวได้ขี่รถมาประกบแล้วใช้มีดลักษณะเหมือนมีดเหน็บมาจี้ที่คอ ก่อนสั่งให้ตนจอดรถหลบเข้าข้างทาง แล้วบังคับให้ตนส่งทรัพย์สินให้ คือ กบไฟฟ้า 1 ตัว โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง กระเป๋าเครื่องมืออีก 1 ใบ และรถจักรยานยนต์ 1 คัน ตนกลัวว่าจะโดนทำร้ายจึงส่งทรัพย์สินพร้อมกุญแจรถให้ไป รวมค่าเสียหายทั้งหมดกว่า 3 หมื่นบาท ซึ่งหลังจากที่คนร้ายได้ทรัพย์สินไปหมดแล้ว ยังได้หันมาบอกกับตนว่า “ลุงเข้าใจนะ…ชีวิตวัยรุ่น” ก่อนจะพูดอีกว่า “ถ้าลุงอยากมีชีวิตอยู่ ให้ลุงวิ่งหนีให้ไวที่สุด”

จากนั้น คนร้ายได้ตะโกนนับ 1-10 ตนกลัวมากไม่รู้จะทำอย่างไร พอคนร้ายเริ่มนับตนก็วิ่งหนีแบบไม่คิดชีวิต หันมาอีกทีคนร้ายได้ขับรถจักรยานยนต์พร้อมทรัพย์สินของตนหลบหนีไปแล้ว ตนจึงย้อนกลับไปดูพบว่าคนร้ายได้ทิ้งกล่องข้าวของตนไว้ให้ พอแน่ใจว่าคนร้ายไม่ย้อนมาอีก ตนจึงควักโทรศัพท์มือถือที่แอบไว้อีกเครื่องโทรศัพท์แจ้งญาติมาช่วยเหลือ
ด้านตำรวจลงพื้นที่ตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบว่า บริเวณดังกล่าวมีรอยเท้าซึ่งคาดว่าจะเป็นของคนร้าย และเห็นได้ชัดเจนเนื่องจากดินบริเวณนั้นชื้น คาดว่าคนร้ายน่าจะเป็นกลุ่มวัยรุ่นในละแวกที่เกิดเหตุ หรือพื้นที่ใกล้เคียง
อย่างไรก็ตามได้ประสานไปยังสถานีตำรวจในพื้นที่ และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิต่างๆ หากพบผู้ต้องสงสัยให้ประสานกลับมายัง สภ.โพธิ์ทอง ทั้งนี้ก็ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่ติดตามหาตัวคนร้ายชุดนี้มาดำเนินคดีต่อไป










