
ประเด็นคือ – ตำรวจจับกุมลุงโชเฟอร์แท็กซี่ขโมยกระเป๋าสตางค์นักท่องเที่ยวชาวจีน อ้างเอาไปจ่ายค่างวดรถที่ค้างอยู่
วันที่ 21 ม.ค. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.ศราวุธ ตันกุล ผกก.2 บก.ทท.1 พร้อมด้วย พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก.สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี, พ.ต.ท.ปิยะพงษ์ เอนสาร สารวัตรตำรวจท่องเที่ยวพัทยา และเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบก ร่วมกันควบคุมตัว นายทบ โพริตร์ อายุ 56 ปี โชเฟอร์แท็กซี่ พร้อมของกลางรถแท็กซี่ ยี่ห้อโตโยต้า สีฟ้า ทะเบียน ทศ 5910 กทม. กระเป๋าเงินยี่ห้อหลุยส์ วิคตองส์ 1 ใบ บัตรประจำตัวประชาชนนักท่องเที่ยวสัญชาติจีน 1 ใบ บัตรเครดิตและเดบิตธนาคารจีน 3 ใบ และธนบัตรเงินสกุลหยวน 1 ใบ หลังควบคุมตัวได้ขณะมารอรับผู้โดยสารบริเวณซอยนาเกลือ 22 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ตามหมายจับศาลจังหวัดพัทยา ที่ จ. 22/2561 โดยกล่าวหาว่า ลักทรัพย์โดยใช้พาหนะ เพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป

เจ้าหน้าที่เปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 17 ม.ค.ที่ผ่านมา ได้มีนักท่องเที่ยวชาวจีนคือ นายเซยู ชานดง (Zeyu Shandong) เข้ามาแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ว่าถูกลักเอาทรัพย์สินเป็นกระเป๋าสตางค์ขณะนั่งเล่นอยู่บริเวณล็อบบี้ของโรงแรมแห่งหนึ่ง บนถนนสายพัทยา-นาเกลือ โดยภายในมีทรัพย์สินเป็นเงินสกุลหยวนมูลค่า 500 หยวน และเงินไทยอีก 4,000 บาท บัตรเครดิต บัตรเอทีเอ็ม และเอกสารต่างๆ หายไป โดยจากการสืบสวนหาข่าวของเจ้าหน้าที่ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายทบ โพริตร์ คนขับรถแท็กซี่ จึงขออนุมัติออกหมายจับ กระทั่งรวบตัวได้พร้อมของกลาง
จากการสอบสวน นายทบ ให้การรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุลักทรัพย์นักท่องเที่ยวไปจริง เนื่องจากเห็นว่ากระเป๋าถูกวางไว้โดยไม่มีคนเฝ้าหรือเจ้าของอยู่ใกล้เคียง ซึ่งเมื่อเปิดกระเป๋าดูก็พบเงินจำนวนดังกล่าวจึงได้ลักเอาไปเพื่อนำเงินไปจ่ายค่างวดรถที่ติดค้างอยู่ จากนั้นก็นำกระเป๋าไปเก็บซ่อนไว้ในรถกระทั่งมาถูกจับกุมดังกล่าว

ด้าน พ.ต.อ.ศราวุธ ตันกุล ผกก.2 บก.ทท.1 กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวถือว่าสร้างความเสียหายต่อการเป็นเจ้าบ้านที่ดีและส่งผลเสียต่อการท่องเที่ยวอย่างมาก จึงร่วมกับตำรวจท่องเที่ยวและกรมการขนส่งทางบกเร่งรัดในการติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุ กระทั่งสามารถสืบทราบและรวบตัวได้ ซึ่งสร้างความพอใจให้กับนักท่องเที่ยวอย่างมาก นอกจากผู้ก่อเหตุจะถูกดำเนินคดีในข้อหาลักทรัพย์แล้ว ทางกรมการขนส่งทางบกจะได้ทำการยึดใบอนุญาติขับขี่ เพื่อไม่ให้นำมาใช้ในการประกอบอาชีพระหว่างขั้นตอนพิจารณาคดี

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ระหว่างที่กำลังแถลงข่าวอยู่ นายทบได้ลุกขึ้นจากเก้าอี้ยกมือไหว้พร้อมกล่าวขอโทษผู้เสียหาย ซึ่งสร้างความรู้สึกดีให้กับกลุ่มผู้เสียหาย อีกทั้งยังขอฝากขอโทษพี่น้องร่วมอาชีพที่ทำให้ภาพลักษณ์แย่ลง และขอยืนยันว่าหลังจากพ้นโทษจะไม่กลับไปทำพฤติกรรมไม่ดีเช่นนี้ อีกต่อไป









