คอนเซ็ปต์ของบ้านหลังนี้มีชื่อว่า : compact living space with rich experiences
เลยอยากขอตั้งชื่อภาษาไทยให้ว่า : “บ้านเล็ก น้อยนิด มหาศาล”
.
“3500 millimetre house” คือชื่อของบ้านโดยมาจากความกว้างของบ้านที่มีเพียงแค่ 3.5 เมตร แต่ให้ประสบการณ์เหมือนบ้านขนาดใหญ่จึงเป็นที่มาของการแปลงค่าเมตรให้กลายเป็นมิลลิเมตรเพื่อให้ความรู้สึกที่ใหญ่ขึ้นตามความรู้สึก

.
สตูดิโอ Ago architects ผู้ออกแบบบ้านให้กับครอบครัวสถาปนิกในกรุงจาร์กาต้า ประเทศอินโดนีเซีย โดยออกแบบภายใต้ไอเดียที่อยากจะสร้างรูปแบบการใช้ชีวิตบนพื้นที่กระทัดรัด แต่เต็มเปี่ยมไปด้วยประสบการณ์ที่มากกว่าพื้นที่ปกติจะให้ได้
โดยบ้านหลังนี้มีทั้งหมด 4 ชั้นรวมชั้นดาดฟ้า มีพื้นที่การใช้สอยทั้งหมด 100 ตารางเมตร ภายในเล่นกับพื้นที่ ต่างระดับและใช้เพดานสูง ไม่กั้นกำแพงทำให้บ้านไม่อึดอัดดูโปร่งโล่งมากขึ้น โดดเด่นไปด้วย Facade(เปลือกของอาคารที่ถูกต่อเติม)เหล็กโปร่งแสงด้านหน้าอาคารที่ทำให้บ้านหลังนี้แตกต่างไปจากบ้านหลังอื่น ๆ
เรามาดูรายละเอียดที่น่าสนใจของบ้านหลังนี้กันดีกว่ามีอะไรที่สามารถเก็บไว้เป็นไอเดียในการแต่งบ้าน ของพวกเราได้บ้าง

ไฟหลืบไฟซ่อนสร้างอารมณ์
ดีเทลแรกที่น่าสนใจของบ้านหลังนี้คือเรื่องของไฟ ไฟที่ใช้ในบ้านส่วนใหญ่ใช้เป็นไฟหลืบ ที่ให้แสงสว่างเล็กน้อย แต่มอบประสบการณ์สุนทรียภาพที่ดีให้กับบ้าน สร้างความสบายตาเวลามองไม่ระคายสายตา

เฟอรนิเจอร์ไม้สีอบอุ่นถูกเลือกใช้เป็นองค์ประกอบของห้อง เพื่อตัดกับโทนสีเย็นของคอนกรีตเปลือยภายในอาคาร
ทำให้ห้องไม่ดูแข็งทื่อจนเกินไป มีการถ่วงดุลกันระหว่างสีโทนร้อนและโทนเย็นในห้อง อีกทั้งยังมีการปูพรมบริเวณทางเดินเพื่อช่วยลดความเย็นจากพื้นปูน ทำให้เดินสบายเท้ามากขึ้น

เมื่อการดีไซน์อำนวยความสะดวกการใช้งานมากขึ้นกับ ฟังก์ชันพื้นต่างระดับ
ในลักษณะเป็นหลุมลงไป ช่วยทำให้องศาของเข่าเวลานั่งลงบนโซฟาจะสบายมากขึ้น แต่พื้นต่างระดับยังมีฟังก์ชันมากไปกว่าแค่ความสวยงาม ถ้าอยากรู้นั้นเราไปดูกันต่อเลยว่าภายใต้พื้นต่างระดับนั้นซ่อนอะไรเอาไว้

เมื่อพื้นที่เก็บของถูกรวมเข้ามาเป็นหนึ่งในงานออกแบบ
พื้นต่างระดับซ่อนเอาไว้ด้วยชั้นเก็บของมากมายไว้ภายใน ทำให้พื้นทางเดินธรรมดาที่สร้างมิติและความสวยงามให้กับบ้าน สามารถที่จะมีประโยชน์ไปมากกว่านั้นด้วยที่เก็บของภายในรวมถึงตัวบันไดเองก็มีที่เก็บของชั้นหนังสือในการเก็บของเช่นกัน

Double Space สร้างความสบาย
ด้วยเหตุที่พื้นที่จำกัดทำให้ห้องภายในดูแคบและอึดอัด แต่ปัญหาดังกล่าวสามารถแก้ด้วยการทำเพดานให้สูงขึ้นกว่าชั้นปกติ หรือจะเลือกการใช้ Double Space แบบในบ้านหลังนี้เพื่อเพื่มความโปร่งให้ภายในดูกว้างสบายตาและยังช่วยในเรื่องของอากาศถ่าเทที่มากขึ้น วิธีการดังกล่าวยังสอดคล้องไปกับการเลือกใช้กระจกบานใหญ่หน้าบ้านทำให้ภายในบ้านสว่างได้จากแสงธรรมชาติได้อีกด้วย

รับแสงธรรมชาติด้วยกระจก
แต่ละชั้นของบ้านถูกติดด้วยกระจกบานใหญ่เพื่อช่วยให้แสงธรรมขาติ สาดส่องเข้ามายังตัวอาคาร และบริเวณด้านนใช้ Skylight ในการช่วยเพิ่มแสงสว่างบริเวณโครงบันไดที่ระเบียง ทำให้ดูไม่ทึบอึมครึมจากสีของเหล็ก

เจาะช่องระเบียงที่ชั้น 2
เจาะช่องบริเวณฟาซาดที่ระเบียงชั้นสองทำให้สามารถเห็นวิวภายนอกได้มากขึ้น และช่วยให้ตัวบ้านภานอกไม่ดูทึบจนเกินไป บริเวณด้านบนของช่องระเบียงที่ติดตั้งไปด้วยที่กันน้ำฝนเพื่อป้องกันฝนสาดเข้ามาในบ้านจากช่วงเวลาที่ฝนตก

ฟาซาดหน้าบ้านนอกจากจะมอบความสวยงามให้กับบ้านแล้ว ยังมีประโยชน์ในเรื่องของการช่วยรับแสงแดดเข้ามาภายในตัวบ้านจากลักษณะรูพรุนของตัวฟาซาด กรองแสงอาทิตย์อีกระดับหนึ่งด้วยแผ่นโพลีคาร์บอเนตใสที่สามารถช่วยในเรื่องของความร้อนได้ อีกทั้งฟาซาดยังมีประโยชน์ในการพรางตาจากภายนอกสร้างความเป็นส่วนตัวภายในมากขึ้น