ความหวังในวิทยาศาสตร์ และ ความเชื่อทางศาสนา มักจะไม่ได้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยเฉพาะในเรื่องโลกหลังความตาย ที่ความเชื่อแต่ละฝั่งนั้นแตกต่างกันไปอย่างสิ้นเชิง
‘Hope Frozen: A Quest to Live Twice’ ในชื่อไทยว่า ‘ความหวังแช่แข็ง : ขอเกิดอีกครั้ง’ เป็นสารคดีไทยใน Netflix ที่พูดถึงครอบครัวนักวิทยาศาสตร์ชาวพุทธ ที่ตัดสินใจท้าทายทั้งแนวคิดทางศาสนาที่ตนนับถือ และขีดความสามารถทางวิทยาศาสตร์ของมนุษย์ในปัจจุบัน

ไพลิน วีเด็ล ผู้กับกับสารคดี Hope Frozen
สารคดีเรื่องนี้มีประเด็นน่าสนใจอะไรบ้าง workpointTODAY สรุปมาให้ 10 ข้อ
1. ไครโอนิกส์ (Cryonics) หรือการแช่แข็งร่างกาย คือกระบวนการที่นำมาสู่เรื่องราวที่เกิดขึ้นในสารคดีเรื่องนี้ โดยครอบครัวของน้องไอนส์ เด็กหญิงวัย 2 ขวบที่ป่วยเป็นมะเร็งสมองชนิดร้ายแรง ซึ่งการแพทย์ในปัจจุบันยังไม่สามารถรักษาได้ ตัดสินใจแช่แข็งศีรษะและสมองของลูกสาวเอาไว้ ด้วยความหวังว่าในอนาคต จะมีวิทยาการที่นำน้องไอนส์กลับมาได้อีกครั้ง
2. ประเด็นเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สังคมให้ความสนใจพอสมควร แต่ก่อนจะมาถึงการตัดสินใจเช่นนี้ ครอบครัวน้องไอนส์ต้องผ่านอะไรมามากมาย เริ่มตั้งแต่การโน้มน้าวคนในครอบครัวให้เข้าใจถึงเหตุผล เพราะนอกจากคุณพ่อแล้ว คนอื่นๆ ในครอบครัวและญาติพี่น้องไม่มีใครเห็นด้วยกับความคิดนี้เลย จนไปถึงการที่ต้องเดินสายออกสื่อเพื่ออธิบายต่อสังคม หลังเรื่องนี้กลายเป็นข่าวใหญ่โดยที่ทางครอบครัวไม่ได้ตั้งใจให้เป็นเช่นนั้น
3. ผู้กำกับอย่าง ไพลิน วีเด็ล พยายามชูให้เห็นถึงความเป็นนักวิทยาศาสตร์ของสมาชิกทุกคนในครอบครัว คุณพ่อและคุณแม่จบปริญญาเอก ลูกชายคนโตเป็นเด็กอัจฉริยะ ที่ถึงแม้จะใช้ชีวิตอยู่กับความหวัง แต่ก็ยังมองโลกตามความเป็นจริง พวกเขารู้ดีว่าโอกาสที่ความหวังจะกลายเป็นความจริงนั้นมีมากน้อยขนาดไหน
4. ในขณะเดียวกัน พวกเขาก็ยังนับถือศาสนาพุทธตามความเชื่อของครอบครัวในสังคมไทยทั่วไป แสดงให้เห็นว่ากว่าที่จะมาถึงขั้นนี้ได้ นอกจากเรื่องความเป็นไปได้ทางวิทยาศาสตร์แล้ว พวกเขาต้องฝ่าฟันความเชื่อเรื่องการเวียนว่ายตายเกิด และหลักธรรมะเรื่องการปล่อยวาง ซึ่งมีส่วนที่ขัดแย้งกับการแช่แข็งร่างกายมนุษย์อยู่ไม่น้อย
5. สารคดีทั่วไปอาจจะเน้นเรื่องการให้ข้อมูล แต่ Hope Frozen จะเน้นเรื่องการเล่าเรื่องเป็นหลัก เพื่อให้ผู้ชมสัมผัสได้ถึงอารมณ์ของครอบครัวน้องไอนส์ ไล่มาตั้งแต่ช่วงที่ยังไม่มีอาการป่วย ฉายภาพให้เห็นความเป็นเด็กร่าเริงที่สร้างความสุขให้กับคนรอบข้าง จนมาถึงวันที่ต้องทำใจยอมรับว่า การแพทย์ในปัจจุบันไม่สามารถยื้อชีวิตได้แล้ว
6. ตลอดช่วงของการถ่ายทำ 2 ปีครึ่ง ผู้กำกับได้ตามไปถ่ายทำในหลายช่วงเวลาสำคัญ ทั้งในประเทศไทยและสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นที่ที่น้องไอนส์ถูกแช่แข็งไว้ บวกกับภาพวิดีโอที่ทางครอบครัวได้ถ่ายเอาไว้ ทำให้เราได้เห็นการดำเนินเรื่องในหลายแง่มุม และทุกเรื่องที่เกิดขึ้นล้วนเป็นความจริง
7. ”ความไม่รู้” คือสิ่งที่ครอบครัวน้องไอนส์รับรู้ร่วมกัน พวกเขายอมรับว่าไม่มีอะไรยืนยันได้ ว่าในอนาคตจะสามารถนำส่วนของร่างกายที่โดนแช่แข็งกลับมาทำงานได้อีกครั้ง รวมถึงไม่รู้ว่า ถ้ามีการค้นพบวิทยาการที่ทำให้น้องไอนส์กลับมาได้จริง พวกเขาจะยังมีชีวิตอยู่ในวันนั้นหรือไม่ แต่สิ่งที่นำมาสู่การตัดสินใจครั้งนี้คือ “ความรัก” ที่ต้องการมอบโอกาสให้เด็กสาวคนนี้ได้มีชีวิตอีกครั้ง
8. การนำเสนอข่าวของสื่อก็เป็นอีกแง่มุมที่สารคดีฉายภาพให้เราเห็น จากเรื่องที่เดิมทีเป็นการพูดคุยและตัดสินใจกันภายในครอบครัวและคนรู้จัก อยู่มาวันหนึ่งต้องกลายมาเป็นกระแสสังคมที่ถูกพูดถึงไปทั่วโลก ได้รับเชิญไปออกรายการและโดนตั้งคำถามต่างๆ นาๆ ซึ่งตัวคุณพ่อเองบอกว่าไม่สนใจกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่เกิดขึ้น แต่สิ่งหนึ่งที่ตัวสารคดีอาจจะทิ้งปมไว้ให้คิด คือพอเราได้รับรู้เรื่องราวเบื้องลึกที่ทางครอบครัวเผชิญมา เราจะมีมุมมองอย่างไรเมื่อเทียบกับตอนที่อ่านข่าวผ่านสื่อเพียงอย่างเดียว
9. ในฐานะคนดู ต้องบอกว่าโอกาสในการรับชมสารคดีไทยที่ได้รางวัลจากเทศกาลภาพยนตร์ จนมาออกฉายทั่วโลกผ่านบริการสตรีมมิ่งนั้นมีไม่บ่อยนัก เพราะข้อจำกัดเรื่องการหาทุน ระยะเวลาในการถ่ายทำ และผลตอบแทนที่อาจไม่คุ้มค่าในแง่ธุรกิจ ทำให้มีน้อยคนที่จะทำผลงานแบบนี้ออกมา
10. สารคดีนี้จบลงแบบทิ้งปลายเปิดไว้ ในตอนนี้ยังไม่มีใครรู้ว่าตอนจบจะเป็นอย่างไร แต่สิ่งหนึ่งที่ครอบครัวน้องไอนส์เชื่อคือ ตราบใดก็ตามที่มนุษย์ยังไม่หยุดพัฒนา และวิทยาศาสตร์ยังคงก้าวหน้าต่อไปเรื่อยๆ ความหวังที่ลูกสาวของพวกเขาจะกลับมามีชีวิตอีกครั้ง ก็ยังคงอยู่ตอไป
ไม่ว่าจะต้องรออีกกี่ร้อยปีหรือกี่พันปีก็ตาม
บทสัมภาษณ์ฉบับเต็ม ไพลิน วีเด็ล ในรายการ workpointTODAY







![[ประมวลภาพ] เหนือคำบรรยายสมการรอคอย ใน “Omoinotake One Man Live in Taipei & Bangkok”](/_next/image?url=https%3A%2F%2Fimages.workpointtoday.com%2Fworkpointnews%2F2025%2F12%2F18194713%2F1766062032_006495-workpointtoday.webp&w=2048&q=75)


