ครอบครัวโทโมโกะ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย เข้าพบรองนายกฯ เรียกร้องให้เร่งติดตามคดี น.ส.โทโมโกะ คาวาชิตะ นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น ถูกฆาตกรรมในเขตอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย หลังผ่านมา 11 ปี ยังจับผู้ก่อเหตุไม่ได้
วันที่ 18 ม.ค. 2562 วานนี้เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย พร้อมด้วยนายยาสุอากิ และนางเอโกะ คาวาชิตะ บิดา-มารดา ของ น.ส.โทโมโกะ คาวาชิตะ นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นที่ถูกฆาตกรรมในเขตอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย เมื่อวันที่ 25 พ.ย.2550 เข้าพบ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเพื่อทวงถามความคืบหน้าของคดี หลังคดีความล่วงมานานถึง 11 ปีแล้วยังจับผู้ก่อเหตุไม่ได้
พล.อ.อ.ประจิน กล่าวว่า เพื่อแสดงความมั่นใจว่ารัฐบาลไทยจะไม่ทิ้งและติดตามคดีนี้อย่างใกล้ชิด โดยทางครอบครัวน.ส.โทโมโกะ ขอให้ทางการไทยเพิ่มรางวัลนำจับ ซึ่งไทยรับจะไปพิจารณาให้ โดยจะเพิ่มจาก 1.6 ล้านบาท เป็น 2 ล้านบาท และจะแจ้งความคืบหน้าทางคดีเป็นระยะ ซึ่งขณะนี้ ได้ตรวจ DNA ไปแล้ว 300 คน และหวังให้ผู้ที่มีเบาะแสแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ เพื่อดำเนินการค้นหาผู้กระทำความผิดในคดีนี้ต่อไป
รองนายกฯ ยืนยันว่า ไทยมีมาตการในการดูแลนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้เกิดความสะดวกสบายและปลอดภัย และจะดูแลให้ดีที่สุด ส่วนเรื่องความคืบหน้าของคดีนั้น จะแจ้งผ่านทางเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทยต่อไป โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจะเป็นผู้ประสานงานหลักในการแจ้งข้อมูล ขณะที่ดีเอสไอจะเป็นผู้ประสานด้านเทคนิค
ยาสุอากิ คาวาชิตะ บิดา
ขณะที่ครอบครัวของน.ส.โทโมโกะ กังวลเรื่องอายุความที่เหลืออีก 9 ปี จึงขอให้สื่อมวลชนช่วยประชาสัมพันธ์การเพิ่มรางวัลนำจับและขอให้ผู้ทราบเบาะแสให้ข้อมูลกับทางครอบครัวหรือทางการไทย พร้อมกับเสนอว่า อยากให้คดีไม่มีอายุความ เหมือนกฎหมายของประเทศญี่ปุ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมรับข้อเสนอ และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำมาร่วมกันพิจารณาแล้ว
พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ โฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ยืนยัน ดีเอสไอ ยังดำเนินการสืบสวนสอบสวนต่อเนื่อง และเนื่องจากคดีนี้เป็นคดีอาญา ต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าใครคือผู้กระทำความผิด แต่หากยังไม่มีพยานหลักฐาน ก็ยังต้องเพิ่มความพยายามต่อไปจนกว่าคดีจะครบอายุความ ปี 2570
