แทบทรุด ! 2 ผัวเมีย แวะกินข้าวต้มข้างทาง ชะล่าใจเก็บเงินค่าซื้อที่ดินไว้ในรถ 1.3 ล้านบาท ก่อนถูกมือดีขโมยหายเกลี้ยง เบื้องต้นไม่พบร่องรอยการงัด คาดลืมล็อกประตูรถยนต์
เมื่อวันที่ 29 พ.ย. 2561 เวลา 22.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.อ กริน จันวิภาค ได้รับแจ้งมีเหตุคนร้ายขโมยของภายในรถที่จอดอยู่ข้างถนนเหตุเกิดตรงข้ามร้านข้ามต้นคนเห็นสาขา 2 ถนนเทวาภิบาล ในเขตเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด ภายหลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองร้อยเอ็ด รุดตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุบริเวรริมถนนฝั่งขาเข้าตัวเมืองร้อยเอ็ด พบผู้เสียหายทราบชื่อคือ นางอุไรพร อำนวย อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25 หมู่ที่ 2 ต.แก่งเค็ง อ.กุดข้าวปุ้น จ.อุบลราชธานี พร้อมด้วยสามียืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ ใกล้กันพบรถยนต์ยี้ห้อโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ สีขาว หมายเลขทะเบียน 5กว-5454 กทม จอดอยู่ริมถนน จากการตรวจสอบไม่พบร่องรอยของการถูกงัด ส่วนเงินสดจำนวน 1.3 ล้านบาท ที่เจ้าของรถเอาใส่ไว้ในกระเป๋าสีดำและวางไว้ที่พักเท้าด้านหน้าได้หายไปทั้งหมด
จากการสอบสวน นางอุไรพร อำนวย ให้การกับตำรวจว่า ตนเองพร้อมด้วยสามีทำงานอยู่ที่กรุงเทพ แต่สามีเป็นคนอำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด โดยในช่วงสายของวันเกิดเหตุ ตนเองและสามีได้นำเงินก้อนดั่งกล่าวออกจากตู้เซฟเพื่อกลับมาที่อำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อนำมาซื้อที่ให้กับแม่สามี และตนเองได้นัดโอนที่และจ่ายเงินที่ที่ดินอำเภอสุวรรณภูมิ ส่วนสาเหตุที่ต้องนำเงินสดมาเพราะนัดกับเจ้าของที่ไว้ช่วงเช้า เนื่องจากไม่อยากเสียเวลาไปธนาคาร ประกอบกับเช้าเกินเกรงว่าธนาคารจะยังไม่เปิด จึงเอาเงินสดมาด้วย
โดยขณะที่ขับรถมาถึงตัวเมืองร้อยเอ็ดรู้สึกหิวข้าว จึงจอดรถแวะกินข้าวต้มที่ร้านดังกล่าว ส่วนกระเป๋าที่ใส่เงินเก็บวางไว้ที่พักเท้าด้านหน้ารถและใช้ผ้าห่มกับหมอนปิดเอาไว้ จากนั้นได้ลงไปกินข้าวกับสามีโดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง กระทั่งกินข้าวเสร็จเดินกลับมาที่รถ เปิดตูออกพบว่าผ้าห่มและหมอนที่ปินซ่อนกระเป๋าเงินเอาไว้ถูกรื้อออก ตนเองจึงรีบหากระเป๋าเห็นเศษเหรียญที่อยู่ในกระเป๋าถูกนำออกมาวางไว้ข้างนอก ส่วนเงินสดจำนวนหนึ่งล้านสามแสนบาทได้หายไป โดยคนร้ายทิ้งเพียงกระเป๋าไว้ให้ดูต่างหน้า ตนเองเมื่อรู้ว่าเงินจำนวนมากหายถึงกับเข้าทรุดลงก่อนรีบแจ้งตำรวจทราบ
ตรวจสอบเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ไม่พบร่องรอยของการงัดประตูรถ คาดว่าเจ้าของรถน่าจะลืมล็อกรถ อย่างไรก็ตามขณะนี้ตำรวจวิทยาการทำการตรวจลายนิ้วมือแฝงเพื่อนำมาเปรียบเทียบกับผู้ต้องสงสัย และตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณรอบ ๆ เพื่อตามตัวคนร้ายมาดำเนินการทางกฏหมายต่อไป
