
จากรณีที่นางสาววลัยทิพย์ ภพธีรธรรม หรือ หญิง อดีตภรรยาคนที่ 2 ที่จดทะเบียนสมรสตามกฎหมายของอดีตนักมวยรุ่นใหญ่ “สามารถ พยัคฆ์อรุณ” ได้ส่งหนังสือถึงสื่อมวลชนว่าจะเดินทางมาศาลจังหวัดมีนบุรีเพื่อให้ศาลตัดสินเกี่ยวกับการแบ่งสินสมรสและเคลียร์ภาระหนี้สินหลังจากการหย่า
วันที่ 21 ส.ค.2562 นางสาววลัยทิพย์ ภพธีรธรรม เปิดเผยว่า ได้จดทะเบียนสมรสกินอยู่กับสามารถ พยัคฆ์อรุณ ตั้งแต่เมื่อปลายปี 2556 ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เริ่มแย่ลงเรื่อยๆ และแยกกันอยู่ประมาณ 2557 แต่ยังคงทำธุรกิจด้วยกันเพราะมีภาระหนี้สินร่วมกันคือ ค่ายมวย และบ้านย่านสายไหม 2 หลัง แต่สุดท้ายทั้งคู่ก็ตัดสินใจจดทะเบียนหย่ากันในวันที่ 13 มกราคม 2560 โดยสาเหตุของการฟ้องร้องแบ่งสินสมรสในครั้งนี้หญิงให้เหตุผลว่า สามารถ พยัคฆ์อรุณ กลับคำในการแบ่งทรัพย์สินและไม่ยอมขายค่ายมวย เพื่อมาใช้หนี้ที่เป็นการกู้ร่วมกัน (กู้สร้างบ้านและค่ายมวย) และมีการท้าทายให้ฟ้องร้องหากอยากได้เงิน โดยคดีนี้มีการฟ้องร้องกันตั้งแต่ปี 2560 โดยเธอได้เดินทางมาศาลตลอด แต่ฝ่าย “สามารถ” ไม่เคยมาแม้แต่ครั้งเดียว มีเพียงแต่ส่งทนายมาเท่านั้น ที่ผ่านมามีการนัดไกล่เกลี่ยกัน 3-4 ครั้ง แต่ไม่เป็นผล

ล่าสุดวันนี้ก่อนที่ หญิง จะเข้าไปยังห้องพิจารณาคดี เจ้าตัวพร้อมทนายนายธงวัช วราสุวรรณ ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน
“วันนี้ฝ่ายชายต้องมาสืบพยานเป็นครั้งแรก เรื่องภาระหนี้สินที่มีร่วมกัน ตอนที่หย่าปี 2560 เหมือนจะคุยกันรู้เรื่อง แต่หลังฝ่ายชายก็กลับคำ บอกกับตนว่าถ้าอยากได้อะไรมาฟ้องร้องเอา เรื่องภาระหนี้สินถ้าต้องการยังไงก็ไปให้ไปฟ้องร้องเอาตนก็ไม่มีที่พึ่ง ได้ขอร้องให้ผู้ใหญ่ไปช่วยเจรจาแต่ก็ไม่ได้ผล เรื่องหนี้สินที่มีร่วมกัน ตนไม่แน่ชัดเรื่องของตัวเลขเพราะยังไม่ได้เช็คล่าสุด แต่เป็นหนี้สินที่กู้มาสร้างบ้านร่วมกัน 2 หลัง กู้มาทำค่ายมวยร่วมกัน ซึ่งการกู้หนี้เป็นชื่อร่วมกันทุกอย่างตั้งแต่แรก ที่ยังเป็นพื้นดินส่วนตัวคิดว่าเลิกกันแล้ว ก็ควรจะเคลียร์กันทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นชื่อกู้ร่วมกัน เพราะแยกกันแล้วไม่จำเป็นต้องมากู้ร่วมกัน ทุกครั้งที่ศาลนัดมาไกล่เกลี่ย ทางสามารถไม่เคยมาสักครั้ง ส่งแต่ทนายมา ซึ่งทางทนายของสามารถได้บอกว่า ทางสามารถให้อะไรไม่ได้นอกจากเงินล้านเดียว แล้วก็ให้ไปแต่ตัว ทำให้เรื่องยาวจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งตนก็ฟ้อง ขอบ้าน 1 หลัง จากเดิมมีด้วยกัน 2 หลัง อยู่ในรั้วเดียวกัน ย่านสายไหม 2 ไร่ เป็นชื่อคู่กัน ส่วนเรื่องหนี้สินถ้าไม่มีเงินแบ่งกัน ก็ขายค่ายมวยที่มีอยู่ แล้วไปใช้หนี้ที่มีร่วมกัน และตั้งแต่แยกกันโทร.ไปก็ไม่รับสาย บ้านอยู่ในรั้วเดียวกันก็ไม่มีโอกาสได้คุยกันเพราะฝ่ายชายหลบหน้า”







![[ประมวลภาพ] เหนือคำบรรยายสมการรอคอย ใน “Omoinotake One Man Live in Taipei & Bangkok”](/_next/image?url=https%3A%2F%2Fimages.workpointtoday.com%2Fworkpointnews%2F2025%2F12%2F18194713%2F1766062032_006495-workpointtoday.webp&w=2048&q=75)


