กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ชี้แจงเหตุปะทะชุดคุมครองตำบลปะกาฮะรัง บ้านกอแลปิเละ ตำบลปะกาฮะรัง อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี พร้อมสั่งไล่ล่าคนร้ายให้เร็วที่สุด
วันที่ 24 ก.ค.2562 พ.อ.ธนาวีร์ สุวรรณรัตน์ รองโฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ชี้แจงเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้ระเบิดแสวงเครื่องชนิดขว้างและใช้อาวุธปืนสงครามยิงใส่จุดตรวจร่วมจุดตรวจร่วมชุดคุ้มครองตำบล (ชคต.) ปะกาฮะรัง บ้านกอแลปิเละ ตำบลปะกาฮะรัง อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี เมื่อวันที่ 23.กรกฎาคม 2562 เวลาประมาณ 20.10 น. มีผู้เสียชีวิต 4 ราย คือ
1. จ.ส.อ.ชูธวัช มาศศรี อายุ 35 ปี (จนท.โครงฯ) สังกัด ร.153 พัน 2 เสียชีวิต ขณะนำส่ง ร.พ.ปัตตานี
2. สมาชิกอุสมาน ตาสาเมาะ อายุ 27 ปี เสียชีวิต ขณะนำส่ง ร.พ.ปัตตานี
3. นายอุสมาน บาซาร์ อายุ 26 ปี (ชรบ.) เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ
4. นายอับดุลฟัตตา เส็มเหรม อายุ 25 ปี(ชรบ.) เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ
และได้รับบาดเจ็บ จำนวน 3 ราย คือ
1. สมาชิกไพศาล มูซอดี อายุ 30 ปี ถูกกระสุนปืนที่ท้องด้านขวา จำนวน 2 นัด ได้รับบาดเจ็บ
2. สมาชิกนิอามิน มะสาแม อายุ 25 ปีถูกกระสุนปืนบริเวณหน้าอก แขนขวาผิดรูป ได้รับบาดเจ็บ
3. สมาชิกรุสดี ตาสาเมาะ อายุ 24 ปี มีอาการแน่นหน้าอก ไม่มีบาดแผล ได้รับบาดเจ็บ
เหตุเกิดบริเวณจุดตรวจร่วมชุดคุ้มครองตำบล (ชคต.) ปะกาฮะรัง บ้านกอแลปิเละ หมู่ที่ 6.ตำบลปะกาฮะรัง อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี ขณะเกิดเหตุคนร้ายได้โปรยตะปูเรือใบ และเผายางรถยนต์บนถนนสาย 418 ทำให้รถที่สัญจรได้รับความเสียหายจำนวนหนึ่งและจากการตรวจสอบเพิ่มเติมพบรอยเลือดของคนร้าย จำนวน 2 จุด ตามเส้นทางหลบหนี หลังก่อเหตุคนร้ายได้นำอาวุธปืน M 16 A 2 จำนวน 1 กระบอก และอาวุธปืน HK 33 จำนวน 4 กระบอก ของเจ้าหน้าที่หลบหนีไปด้วย เบื้องต้นจากการตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุ พบกระสุนปืนขนาด 5.56 มม. จำนวน 12 นัด กระสุนปืนขนาด 7.62 มม. จำนวน 2 นัด ปลอกกระสุนขนาด 5.56 มม. และ ขนาด 7.62 มม. รวมจำนวน 110 ปลอก ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ
ภายหลังเกิดเหตุ พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 แสดงความเสียใจกับญาติและครอบครัวผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยให้การช่วยเหลือเยียวยาในเบื้องต้นให้ดีที่สุด พร้อมทั้งได้มอบหมายให้ พล.ท.จตุพร กลัมพสุต รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า กำกับดูแลและควบคุมสถานการณ์ในพื้นที่อย่างใกล้ชิด รวมไปถึงได้สั่งการให้หน่วยเฉพาะกิจปัตตานี สนธิกำลังเข้าทำการช่วยเหลือ ตั้งจุดตรวจ จุดสกัด ตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะใช้หลบหนี พร้อมแจ้งกำลังภาคประชาชนให้ช่วยกันตรวจสอบในพื้นที่รับผิดชอบ เพื่อติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป
