
กองบังคับการปราบปราม เปิดเผยปฏิบัติการ ภายใต้การอำนวยการสั่งการของ พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป.ที่ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.3 บก.ป. พร้อมกำลังชุดสืบสวน ร่วมกันจับกุมตัว นายสวน สนธิรักษ์ อายุ 67 ปี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่ จ.24/2562 ลง 6 มิ.ย.62 ซึ่งกระทำผิดฐาน “ทราบนัดโดยชอบแล้วไม่มาศาลตามกำหนด โดยไม่แจ้งเหตุขัดข้อง ถือว่าผู้ถูกกล่าวหามีพฤติการณ์หลบหนี จึงให้ออกหมายจับผู้ถูกกล่าวหามาเพื่อพิจารณาคดี ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ.2560 มาตรา 28” โดยควบคุมตัวได้เมื่อวันที่ 10 ก.ย. สอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ
สำหรับพฤติการณ์ในการจับกุมสืบเนื่องจากเมื่อปี 2552 นายสวน สนธิรักษ์ ดำรงตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีตำบลหนองพอก จ.ร้อยเอ็ด และพ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 1 ส.ค.2556 ถือเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีหน้าที่ต้องยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบของตน คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ตามมาตรา 19 (5), (6) และ (9) แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 กรณีเข้ารับตำแหน่งกรณีพ้นจากตำแหน่งและกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี

แต่ผู้ต้องหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งในส่วนทรัพย์สินของตนเองและคู่สมรส ประกอบไปด้วย บัญชีเงินฝาก ธ.กรุงไทย จำกัด (มหาชน) ชื่อบัญชี นายสวน สนธิรักษ์, รถกระบะบรรทุก จำนวน 2 คัน, โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง จำนวน 2 หลัง และมีพฤติการณ์มีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น กรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ต่อมามีพฤติการณ์หลบหนี จึงให้ออกหมายจับผู้ถูกกล่าวหามาเพื่อพิจารณาคดีตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ.2560 มาตรา 28
พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.3 บก.ป. ได้สั่งการมอบหมายให้ ว่าที่ พ.ต.ต.กิตติภพ ทองเพชร สว.กก.3 บก.ป. เป็นหัวหน้าชุดปฏิบัติการร่วมกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. สืบสวนติดตามจนทราบว่านายสวน หลบซ่อนตัวที่บ้านพักเลขที่ 5 หมู่ที่ 2 ต.รอบเมือง อ.หนองพอก จ.ร้อยเอ็ด จึงได้ร่วมกันเฝ้าสังเกตการณ์บ้านเป้าหมายหลังดังกล่าว จนพบนายสวนเดินอยู่บริเวณหน้าบ้าน

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้เข้าแสดงตัว ขอตรวจสอบบัตรประจำตัวประชาชน ปรากฏว่า เป็นบุคคลตรงตามหมายจับศาลฉบับดังกล่าวจริง จึงได้แสดงหมายจับศาลให้นายสวนอ่านดู จนเป็นที่เข้าใจดีแล้ว และรับว่าตนเองเป็นบุคคลตามหมายจับศาลจริง และยังไม่เคยถูกจับกุมตามหมายจับฉบับดังกล่าวมาก่อน เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับศาลให้ทราบพร้อมทั้งได้แจ้งสิทธิให้ผู้ต้องหารับทราบตามกฎหมาย ซึ่งนายสวนให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
เจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อดำเนินการส่วนที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายต่อไป









