มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ตรวจซ้ำน้ำพริกหนุ่ม 17 ตัวอย่าง พบว่ากว่าร้อยละ 63 ใส่สารกันบูดเกินมาตรฐาน สูงสุดพบเกินกว่าที่ อย.กำหนด 11 เท่า แนะ ยกระดับมาตรฐานของฝากทั่วไทย สร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภค

วันที่ 1 ส.ค. 62 ศูนย์ทดสอบฉลาดซื้อ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เผยผลตรวจสารกันบูดในน้ำพริกหนุ่มในพื้นที่ภาคเหนือ 17 ยี่ห้อ ซึ่งเป็นการตรวจรอบสอง เพื่อหา ปริมาณวัตถุกันเสียประเภทกรดเบนโซอิก และกรดซอร์บิก พบเพียง 2 ยี่ห้อ ที่ไม่พบสารกันบูด ที่เหลือกว่าร้อยละ 63 พบสารกันบูดเกินมาตรฐานและไม่ระบุข้อมูลการใช้วัตถุกันเสียบนฉลากบรรจุภัณฑ์ แนะหน่วยงานรัฐลงพื้นที่สุ่มตรวจคุณภาพของฝากระดับจังหวัดทั่วประเทศ พร้อมจัดอบรมความรู้การใช้วัตถุเจือปนอาหารอย่างถูกต้องให้กับผู้ประกอบการ
ผลการตรวจสอบ พบ น้ำพริกหนุ่ม 2 ตัวอย่าง ที่ตรวจไม่พบสารกันบูดเลย ได้แก่ น้ำพริกหนุ่มอุ้ยคำ จากตลาดวโรรส จ.เชียงใหม่ และน้ำพริกหนุ่ม ยี่ห้อ วรรณภา จากร้านวรรณภา จ.เชียงราย
มีน้ำพริกหนุ่ม 8 ตัวอย่าง ที่ตรวจพบสารกันบูดประเภทกรดเบนโซอิก และกรดซอร์บิก แต่ไม่เกินมาตรฐาน คือ ไม่เกิน 500 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัมได้แก่ – ยี่ห้อ แม่ศรีนวล จากร้านของฝากสามแยกเด่นชัย จ.แพร่
– ยี่ห้อ มารศรี น้ำพริกหนุ่มสูตรดั้งเดิม จากตลาดสดแม่ต๋ำ จ.พะเยา
– ยี่ห้อ แม่มารศรี น้ำพริกหนุ่ม-ปลาร้า จากร้านปะเลอะเยอะแยะ จ.เชียงราย
– ยี่ห้อ ป้าแอ็ด จากตลาดหลักเมือง จ.ลำปาง
– ยี่ห้อ ศุภลักษณ์ รสเผ็ดมาก จากตลาดสดแม่ต๋ำ จ.พะเยา
– ยี่ห้อ อำพัน จากร้านข้าวแต๋นของฝาก จ.ลำปาง
– น้ำพริกหนุ่มอุ้ยแก้ว จากตลาดสดแม่ต๋ำ จ.พะเยา
– ยี่ห้อ นันทวัน (เจียงฮาย สูตรดั้งเดิม) จาก จ.เชียงราย
ซึ่งอาจเป็นกรดเบนโซอิกจากธรรมชาติ ซึ่งไม่ได้มาจากการเติมโดยผู้ผลิต เพราะสารกันบูดในปริมาณน้อย ไม่เพียงพอต่อการใช้เพื่อการถนอมอาหาร
สำหรับ น้ำพริกหนุ่มที่เหลืออีก 7 ตัวอย่าง ตรวจพบปริมาณสารกันบูดมากกว่า 500 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ซึ่งเกินมาตรฐาน ได้แก่
– ร้านดำรงค์ จากตลาดวโรรส จ.เชียงใหม่ (พบกรดเบนโซอิก 890.32 มก./กก.)
– น้ำพริกหนุ่มล้านนา จากตลาดของฝากเด่นชัย จ.แพร่ (พบกรดเบนโซอิก 1026.91 มก./กก.)
– ยี่ห้อ นิชา เจ๊หงส์ น้ำพริกหนุ่ม จากตลาดวโรรส จ.เชียงใหม่ (พบกรดเบนโซอิก 1634.20 มก./กก.)
– ยี่ห้อ เจ๊หงส์ จากตลาดวโรรส จ.เชียงใหม่ (พบกรดเบนโซอิก 1968.85 มก./กก.)
– ยี่ห้อ แม่ชไมพร จากตลาดสดอัศวิน จ.ลำปาง (พบกรดเบนโซอิก 2231.82 มก./กก.)
– ยี่ห้อ ยาใจ จากร้านของฝากสามแยกเด่นชัย จ.แพร่ (พบกรดเบนโซอิก 3549.75 มก./กก.)
– น้ำพริกหนุ่มอุมา จากตลาดสดแม่ต๋ำ จ.พะเยา (พบกรดเบนโซอิก 5649.43 มก./กก.)

ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เลขที่ 389 พ.ศ. 2561 เรื่อง วัตถุเจือปนอาหาร (ฉบับที่ 5) อนุญาตให้ตรวจพบวัตถุกันเสียประเภทกรดเบนโซอิก ปริมาณสูงสุดได้ไม่เกิน 500 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักอาหาร 1 กิโลกรัม และ ประเภทกรดซอร์บิก ปริมาณสูงสุดได้ไม่เกิน 1000 มก./กก. ในหมวดอาหารประเภทเครื่องปรุงรส
ดร.แก้ว กังสดาลอำไพ กองบรรณาธิการ นิตยสารฉลาดซื้อ กล่าวว่า แม้ร่างกายจะสามารถขับสารกันบูดออกได้ทางระบบปัสสาวะ แต่ถ้าหากเราได้รับสารกันบูดบ่อยๆ จากอาหารหลายชนิดในสามมื้อ โดยเฉพาะในอาหารสำเร็จรูป หรืออาหารแปรรูป อาจเกิดปัญหาต่อตับและไตซึ่งต้องทำงานหนักในการขับออก
นางสาวมลฤดี โพธิ์อินทร์ นักวิชาการด้านอาหาร มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวว่า จากผลทดสอบตัวอย่างน้ำพริกหนุ่มที่พบสารกันบูดสูงสุดนั้น มีปริมาณสูงถึง 5649.43 มก./กก. ซึ่งเกินกว่าที่ประกาศกระทรวงสาธารณสุขกำหนดไว้ถึง 11 เท่า นอกจากนี้ หากมีการใช้วัตถุเจือปนอาหาร เช่น วัตถุกันเสีย ก็ต้องระบุข้อมูลการใช้สารกันบูดไว้บนฉลากบรรจุภัณฑ์ให้ผู้บริโภคทราบ ซึ่งน้ำพริกหนุ่มทั้ง 17 ตัวอย่าง พบว่ามีเพียง 2 ตัวอย่าง (ร้อยละ 11) เท่านั้น ที่ระบุว่าใช้วัตถุกันเสีย โดยเฉพาะน้ำพริกหนุ่ม 7 ยี่ห้อ ที่มีปริมาณสารกันบูดเกินมาตรฐาน นั้นไม่มียี่ห้อใดเลย ที่ให้ข้อมูลบนบรรจุภัณฑ์ว่าใช้สารกันบูด
นางสาวพวงทอง ว่องไว เครือข่ายองค์กรผู้บริโภคภาคเหนือ กล่าวว่า น้ำพริกหนุ่มถือว่าเป็นสินค้าประจำภาคเหนือที่นักท่องเที่ยวนิยมซื้อหาเป็นของฝาก จากผลตรวจน้ำพริกหนุ่มในครั้งนี้ พบว่ากว่าร้อยละ 63 นั้นมีปริมาณสารกันบูดเกินมาตรฐาน สิ่งที่ทางเครือข่ายจะดำเนินงานต่อคือการประสานสำนักงานสาธารณสุขในพื้นที่ เพื่อช่วยกันสำรวจคุณภาพมาตรฐานสินค้าของฝากประเภทอื่นๆ นอกจากน้ำพริกหนุ่ม รวมถึงได้ให้ความรู้เกี่ยวกับการใช้วัตถุเจือปนอาหารให้ถูกต้องกับผู้ประกอบการ เพื่อช่วยกันยกระดับมาตรฐานของฝากภาคเหนือ สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว










