องค์กรภาคประชาสังคมร้องรัฐบาลทั่วโลก ยุติการใช้เทคโนโลยีชีวมิติ หวั่นสอดแนมประชาชน

องค์กรภาคประชาสังคมร้องรัฐบาลทั่วโลก ยุติการใช้เทคโนโลยีชีวมิติ หวั่นสอดแนมประชาชน

องค์กรภาคประชาสังคมนานาชาติหลายองค์กรร่วมกันออกแถลงการถึงรัฐบาลทั่วโลก เนื่องจากมีการใช้เทคโนโลยีชีวมิติเพิ่มขึ้นในหลายที่ หวั่นการเก็บข้อมูลเหล่านี้นำไปสู่การสอดแนมประชาชน ทั้งนี้ มูลนิธิผสานวัฒนธรรมจัดทำคำแปลอย่างไม่เป็นทางการ

เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. 2564 องค์การ Access Now ร่วมกับ Amnesty International, European Digital Rights (EDRi), Human Rights Watch (HRW), Internet Freedom Foundation (IFF) และ Instituto Brasileiro de Defesa do Consumidor (IDEC) จัดทำจดหมายเปิดผนึกเรียกร้องถึงรัฐบาลทั่วโลกให้ยุติการใช้เทคโนโลยีชีวมิติซึ่งอาจนำไปสู่การสอดแนมประชาชน โดยจดหมายเปิดผนึกฉบับดังกล่าวมีองค์กรสิทธิมนุษยชนกว่า 179 องค์กรทั่วโลก รวมทั้งมูลนิธิผสานวัฒนธรรม ร่วมลงนามในจดหมายเปิดผนึกนี้ด้วย

เทคโนโลยีชีวมิติคือเทคโนโลยีที่เก็บข้อมูลจากหลักฐานทางชีวภาพของพลเมือง เช่น ระบบการตรวจสอบอัตลักษณ์ใบหน้า (Facial Recognition) การตรวจเก็บสารพันธุกรรม (DNA Collection) และการใช้เทคโนโลยีชีวมิติระยะไกล (Remote Biometric Recognition Technologies)

ช่วงสิบปีที่ผ่านมาหลายประเทศเริ่มใช้เทคโนโลยีชีวมิติ  เช่น ประเทศจีน สหรัฐอเมริกา รัสเซีย อังกฤษ อูกันดา เคนยา สโลวีเนีย เมียนมา สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อิสราเอล อินเดีย รวมทั้งประเทศไทย หลายแห่งมีแนวโน้มในการใช้เทคโนโลยีดังกล่าวสอดแนมประชาชน โดยเฉพาะกับประชาชนที่มีชาติพันธุ์และศาสนาแตกต่างจากผู้คนส่วนใหญ่ทั้งประเทศ เช่น ประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ กลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน

ขณะที่มีอยู่อย่างน้อยหนึ่งครั้งที่รัฐบาลพยายามเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอจากกลุ่มประชาชนที่มีแนวคิดแตกต่างจากรัฐ เช่น กลุ่มชาวบ้านหมู่บ้านทะลุฟ้าที่ถูกสลายการชุมนุม เมื่อวันที่ 28 มี.ค. 2564 อย่างไรก็ดีทนายความให้การปฏิเสธ ขอสงวนสิทธิไม่ให้เก็บตัวอย่างดังกล่าว

แถลงการณ์ระบุรายละเอียดว่า “เทคโนโลยีดังกล่าวก่อให้เกิดภัยต่อสิทธิของเราในสองด้านหลัก ดังต่อไปนี้:

หนึ่ง ข้อมูลที่ใช้เพื่อทดสอบคอมพิวเตอร์ (Training Data) คือฐานข้อมูลที่ถูกป้อนเข้าระบบโดยเปรียบเทียบในการใช้เป็นแม่พิมพ์ของระบบข้อมูลชีวมิติ โดยข้อมูลเหล่านี้มักได้มาโดยไม่ได้รับความยินยอม ซึ่งกล่าวได้ว่าถึงเทคโนโลยีดังกล่าวถูกออกแบบให้สนับสนุนการสอดแนมประชาชน

สอง ตราบใดที่ผู้คนอยู่ในพื้นที่ที่เข้าถึงได้โดยสาธารณะ พวกเขาจะสามารถถูกระบุตัวตน มุ่งเป้าเฉพาะ หรือถูกติดตามได้โดยทันที ซึ่งเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพประชาชน ทั้งนี้เทคโนโลยีดังกล่าวยังทำให้เกิดความหวาดกลัวซึ่งทำให้ผู้คนไม่กล้าที่จะใช้สิทธิและเสียงของตัวเอง ถึงแม้ว่าเทคโนโลยีดังกล่าวจะทำให้เกิดการพัฒนาความปลอดภัยในสาธารณะแต่การละเมิดสิทธิที่เกิดจากการใช้งานของเทคโนโลยีนี้เป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญมากกว่า ดังจะเห็นได้จากข้อมูลและหลักฐานของการใช้เทคโนโลยีดังกล่าวในทางที่ผิด และยังขาดความโปร่งใส”

อ่านแถลงการณ์เต็มที่ได้ที่ เว็บไซต์ มูลนิธิผสานวัฒนธรรม

TODAYWriterTODAY

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง
องค์กรภาคประชาสังคมร้องรัฐบาลทั่วโลก ยุติการใช้เทคโนโลยีชีวมิติ หวั่นสอดแนมประชาชน