เดินห้างกลางวันยังอันตราย อ้างมีปืนขู่วัยรุ่นให้โทรศัพท์หาพ่อโอนเงินมาเป็นค่าไถ่ตัว

วันที่ 10 ธ.ค. ที่ สภ.เมืองนนทบุรี พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธํารงค์ รอง ผบช.ภ 1 พล.ต.ต.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผบก.ภ.จ.นนทบุรี แถลงข่าวจับกุมนายวินิจ จันทร์นิเวศน์ อายุ 26 ปี โค้ชสอนฟุตบอลเด็ก และ นายโชคชัย นามมูลน้อย อายุ 26 ปี ข้อหาร่วมกันชิงทรัพย์ผู้อื่นโดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทําผิดหรือเพื่อพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม และร่วมกันพรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปี แต่ไม่เกินสิบแปดปีไปเสียจากบิดามารดา

พร้อมด้วยของกลาง 1. รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า รุ่น M-SLAZ สีเหลือง ทะเบียน 9 กจ-3623 กรุงเทพมหานคร 2. เสื้อ กางเกง หมวก รองเท้า ที่สวมใส่ในวันก่อเหตุ

นายวินิจที่อ้างว่ามีปืนเดินประกบเหยื่อ ส่วนนายโชคชัย เดินประกบด้านหลัง

พล.ต.ต.ธนายุตม์ กล่าวว่า คดีนี้พ่อ อายุ 54 ปี ได้พานายหนึ่ง (นามสมมุติ) ลูกชายอายุ 17 ปี แจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี ว่า เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. เวลาประมาณ 16.00 น. นายหนึ่ง ลูกชายได้เดินอยู่ภายในห้างสรรพสินค้า ย่านงามวงศ์วาน มีคนร้ายเป็นชายวัยรุ่น 2 คน เข้ามาบังคับพาเดินออกจากห้างไปที่ลานจอด รถชั้นล่าง

นายวินิจยังประกบเหยื่อ ส่วนนายโชคชัยไปเอารถจักรยานยนต์

แล้วพานั่งซ้อนรถจักรยานยนต์ไปในซอยงามวงศ์วาน 18 จากนั้นคนร้าย ได้บังคับให้นายหนึ่ง โทรศัพท์หาผู้ปกครองให้โอนเงินมาให้ 4,000 บาท เมื่อผู้ปกครองโอนเงินเข้าบัญชีคนร้ายได้พา ไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มธนาคารไทยพาณิชย์ หน้าร้านขายยาปากซอยเรวดี ถนนติวานนท์ ต.ตลาดขวัญ อ.เมืองนนทบุรี หลังได้เงิน คนร้ายได้พานายหนึ่งไปปล่อยลงหน้าศาลากลางจังหวัดนนทบุรี ก่อนหลบหนีไป

พล.ต.ต.ธนายุตม์ กล่าวอีกว่าหลังเกิดเหตุได้สั่งการให้ สืบสวนภาค 1 สืบสวนภูธรจังหวัดนนทบุรี สืบสวน สภ.เมืองนนทบุรี เร่งรัดติดตามจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว เพราะคนร้ายลงมือก่อเหตุในห้างสรรพสินค้าถือว่าอุกอาจเป็นภัยต่อประชาชน จนสืบทราบว่าคนร้ายคือ นายวินิจ จันทร์นิเวศน์ และนายโชคชัย นามมูลน้อย จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขอหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี

ต่อมาวันที่ 9 ธ.ค.62 เวลา 02.00 น. สามารถจับกุมนายวินิจ ได้ที่หน้าร้านสะดวกซื้อภายในปั๊มน้ำมันคาลเท็กช์ ถนนงามวงศ์วาน เขตทุ่งสองห้อง กรุงเทพมหานคร และจับกุมนายโชคชัย ได้ที่ห้องเช่ารายวันซอยแจ้งวัฒนะ 14 เขตทุ่งสองห้อง กรุงเทพมหานคร

นายวินิจ และนายโชคชัยให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุชิงทรัพย์เด็กวัยรุ่นในห้างสรรพสินค้าจริง เนื่องจากประมาณ 1 อาทิตย์ ที่ผ่านมาพวกตนไปดื่มกินที่ร้าน คาราโอเกะ เช็คบิลมา 10,000 บาท ขอทางร้านจ่ายไว้ก่อน 2,000 บาท ส่วนที่เหลือจะนำมาจ่าย แต่พวกตนหาเงินไม่ทัน ทางเจ้าของร้านได้โทรศัพท์มาทวงตลอด จึงตัดสินใจลงมือก่อเหตุเพื่อหาเงินไปจ่ายทางร้าน

จากการตรวจสอบประวัติพบว่านายวินิจ เคยถูกจับกุมในข้อหาชิงทรัพย์โดยมีอาวุธ วันที่ 7 เม.ย.59 พื้นที่ สภ.เมืองสมุทรสาคร ศาลตัดสินจําคุก 5 ปี พ้นโทษออกมาเมื่อวันที่ 14 ธ.ค.61

ตำรวจนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 รายมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพบริเวณห้างสรรพสินค้าจุดที่ 1 ชั้น G บริเวณทางขึ้นบันไดเลื่อนเป็นจุดที่คนร้ายเดินมาพบผู้เสียหายแล้วข่มขู่ว่ามีอาวุธปืนก่อนจะเดินกอดคอผู้เสียหายออกมาที่บริเวณทางเข้าออก ส่วนจุดที่ 2 เป็นจุดที่คนร้ายขับรถจักรยานยนต์มารับผู้เสียหายก่อนจะขึ้นซ้อน 3 ออกจากห้าง