BTS ส่งเพลง Dynamite กลับขึ้นอันดับ 1 Billboard HOT 100 รวม 3 สัปดาห์ ขณะที่ยังติดอันดับ 1 อีกหลายชาร์ตของ Billboard ทั้ง Digital Song Sales chart 5 สัปดาห์ซ้อน, Global Excl. U.S. 2 สัปดาห์ซ้อน และ Global 200 ในสัปดาห์แรก

วันที่ 29 ก.ย. 2563 Billboard ได้ประกาศการกลับขึ้นอันดับ 1 ในชาร์ต Billboard HOT 100 อีกครั้งของเพลง Dynamite ในสัปดาห์นี้โดยชาร์ตเพลงสิ้นสุดวันที่ 3 ต.ค. 2563

ก่อนหน้านี้ BTS กลายเป็นศิลปินเกาหลีใต้วงแรกที่สามารถขึ้นสู่อันดับ 1 บนชาร์ต Billboard HOT 100 ด้วยเพลง Dynamite ติดต่อกัน 2 สัปดาห์ ก่อนที่จะตกลงมาอยู่ในอันดับที่ 2 ติดต่อกันอีก 2 สัปดาห์ ก่อนจะกลับสู่อันดับ 1 อีกครั้งในสัปดาห์นี้ ซึ่งขณะนี้สถิติอันดับ 1 ของ BTS รวมกันเป็นทั้งหมด 3 สัปดาห์ด้วยกัน
การกลับมาของ Dynamite ในชาร์ตเพลง Billboard HOT 100 นั้นมาจากการสตรีมถึง 14 ล้านครั้งในสหรัฐฯ ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่า 11% และยอดการดาวน์โหลดกว่า 153,000 ครั้ง ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่า 96% หลังสิ้นสุดวันที่ 24 ก.ย. 2563 ตามการรายงานของ Nielsen Music/MRC Data

Digital Song Sales chart
นอกจากนี้เพลง Dynamite ของ BTS ยังครองอันดับ 1 บน Digital Song Sales chart โดยใช้เวลาติดต่อกัน 5 สัปดาห์ซ้อน และอันดับ 1 บนชาร์ต Global Excl. U.S. เป็นสัปดาห์ที่ 2 จากการสตรีมนอกสหรัฐฯกว่า 78.9 ล้านสตรีม ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่า 17% และยอดขายนอกสหรัฐฯกว่า 27,000 ครั้งเพิ่มขึ้นกว่า 44%

Global Excl. U.S.
รวมไปถึงการทะยานขึ้นสู่อันดับ 1 บนชาร์ต Global 200 จากการสตรีมทั่วโลก 92.1 ล้านครั้ง ซึ่งเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนกว่า 16% และยอดการดาวน์โหลดทั่วโลกกว่า 58,000 ครั้ง ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่า 102%

Global 200

Global 200
ขณะที่ Dynamite ทะยานขึ้นจากอันดับ 17 สู่อันดับที่ 12 ในชาร์ตเพลงสตรีมมิ่ง ขณะที่ Radio Songs chart ขยับจากอันดับ 47 ขึ้นสู่อันดับที่ 42 รวมไปถึงผู้ฟังทางสถานีวิทยุอีก 20.8 ล้านครั้ง ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่า 8% ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
Billboard ตั้งข้อสังเกตว่า 52%ของยอดขายโดยรวมตั้งแต่สิ้นสุดวันที่ 24 ก.ย. 2563 เป็นเพลง Dynamite ที่ถูกนำมารีมิกซ์ใหม่เป็น 4 เว่อร์ชั่น Bedroom, Midnight, Retro และ Slow Jam ที่ออกมาเมื่อวันที่ 18 ก.ย. 2563

Billboard HOT 100 เป็นชาร์ตที่จัดอันดับเพลงทุกประเภทที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในสหรัฐฯ โดยอ้างอิงจากการสตรีม,การออกอากาศทางวิทยุ และข้อมูลการขาย
Global Excl. U.S. และ Global 200 ทั้ง 2 ชาร์ตเปิดตัวเมื่อวันที่ 14 ก.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งการจัดอันดับเพลงจะตรงข้ามกับชาร์ต Billboard HOT 100 ที่จะจัดอันดับตามความนิยมในสหรัฐฯ สำหรับทั้ง 2 ชาร์ตเพลงใหม่นี้จะจัดอันดับเพลงที่ได้รับความนิยมทั่วโลก โดยอ้างอิงจากยอดขายและยอดสตรีมจากพื้นที่มากกว่า 200 แห่ง ซึ่ง Global 200 จะประกอบไปด้วยข้อมูลทั่วทุกมุมโลก ขณะที่ Global Excl. U.S. จะเป็นการแสดงข้อมูลทั่วโลกยกเว้นในสหรัฐฯ
อ้างอิง







![[ประมวลภาพ] เหนือคำบรรยายสมการรอคอย ใน “Omoinotake One Man Live in Taipei & Bangkok”](/_next/image?url=https%3A%2F%2Fimages.workpointtoday.com%2Fworkpointnews%2F2025%2F12%2F18194713%2F1766062032_006495-workpointtoday.webp&w=2048&q=75)


