สพฐ. ระดม 225 เขตพื้นที่การศึกษา เร่งช่วยเหลือนักเรียนยากจนทั่วประเทศ

สพฐ. ระดม 225 เขตพื้นที่การศึกษา เร่งช่วยเหลือนักเรียนยากจนทั่วประเทศ

การศึกษา

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือ สพฐ. สั่งการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา 225 เขตเร่งติดตาม ช่วยเหลือนักเรียนยากจนพิเศษ ที่คาดว่าจะมีอีกกว่า 30,000 คนไม่ให้เสียโอกาสรับทุนการศึกษา

วันที่ 30 ส.ค. 62 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือ สพฐ. และ กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา หรือ กสศ. จัดเวทีสร้างความเข้าใจหน่วยบริการจัดสรรเงินอุดหนุนนักเรียนทุนเสมอภาค หรือ นักเรียนยากจนพิเศษ โดยมีเขตพื้นที่การศึกษาทั้งหมด 225 เขต และครูแกนนำสร้างความเสมอภาคทางการศึกษาเข้าร่วม

ว่าที่ ร.ต.ธนุ วงษ์จินดา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กล่าวว่า ผลจากการเยี่ยมบ้านและคัดกรองนักเรียนยากจนพิเศษของครูสังกัดสพฐ. ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษานี้ มีนักเรียนที่ผ่านคัดกรองเพื่อรับเงินอุดหนุนปัจจัยพื้นฐานนักเรียนยากจนจาก สพฐ. และเงินอุดหนุนแบบมีเงื่อนไข กสศ. จำนวน 2,628,799 คน โดยมีนักเรียนยากจนพิเศษที่คาดว่าจะได้รับการจัดสรรเงินอุดหนุน ภาคเรียนที่ 1/2562 ราว 723,604 คน จากทั่วประเทศ โดยนักเรียนยากจนพิเศษกลุ่มเลื่อนชั้น กสศ.จัดสรรเงินอุดหนุนแล้วกว่า 311,474 คน เหลือจัดสรรเงินอุดหนุนให้แก่นักเรียนยากจนพิเศษกลุ่มใหม่อีก 381,629 คน ภายในเดือนกันยายนนี้ อย่างไรก็ตามยังมีนักเรียนยากจนพิเศษที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์การคัดกรอง แต่โรงเรียนยังไม่ได้บันทึกผลการรับรองข้อมูลนักเรียนยากจนพิเศษโดยคณะกรรมการสถานศึกษา หรือ นร.05 เข้ามาในระบบ จำนวน 30,501 คน จาก 1,638 โรงเรียน ซึ่งจะส่งผลให้นักเรียนกลุ่มนี้จะไม่ได้รับการจัดสรรเงินอุดหนุนในรอบนี้

สำหรับเด็กยากจนพิเศษ 30,501 คนนี้ ถือเป็นเด็กกลุ่มเสี่ยงสูงที่จะหลุดออกนอกระบบเพราะความยากจน กำลังเดือดร้อน ไม่ได้รับการช่วยเหลือ สพฐ.จะไม่ทอดทิ้ง เบื้องต้นได้ประสาน กสศ.ให้เปิดระบบเพื่อขยายเวลาการบันทึกผลการรับรองข้อมูลนักเรียนยากจนพิเศษโดยคณะกรรมการสถานศึกษา ระหว่างวันที่ 2 – 6 ก.ย. 62 และขอให้เขตพื้นที่การศึกษาทั้ง 225 เขต ช่วยกันดำเนินการผลักดันเรื่องนี้ให้สำเร็จ

ที่ผ่านมาจากตัวเลขนักเรียนออกกลางคันมากกว่าร้อยละ 2  ของนักเรียนทั้งหมด จากการอพยพ ย้ายถิ่นฐานตามผู้ปกครอง ปัญหาท้องก่อนวัยเรียน ปัญหาเศรษฐกิจ เมื่อ สพฐ. ใช้มาตรการดูแลช่วยเหลือนักเรียนทุกกลุ่มตัวเลขนักเรียนออกกลางคันลดเหลือไม่ถึงร้อยละ 1 ซึ่งมีทั้ง กศน. ​ท้องถิ่น คอยช่วยติดตามนำระบบเลข 13 หลัก มาติดตามว่าเด็กอยู่ตรงไหน รวมถึงความร่วมมือกับกสศ.ในการสนับสนุนเงินอุดหนุนอย่างมีเงื่อนไข (CCT) นี้ด้วย เนื่องจากระบบที่ สพฐ. และ กสศ. ช่วยกันพัฒนาขึ้นนี้จะมีการติดตามข้อมูลการมาเรียนของนักเรียนเป็นรายบุคคลอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปีการศึกษา เพื่อเป็นหลักประกันในการป้องกันการหลุดออกจากระบบของนักเรียนยากจนพิเศษด้วย

นพ.สุภกร บัวสาย ผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา หรือ กสศ. กล่าวว่า ในปีการศึกษา 2562 ตัวเลขนักเรียนที่ได้รับทุนเสมอภาคเพิ่มขึ้นจากปีการศึกษา 2561 จาก 510,040 คน เป็น 723,604 คน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 42 เนื่องจากได้รับการสนับสนุนและความร่วมมือจาก สพฐ. ทั้งส่วนกลางและเขตพื้นที่การศึกษาทั้ง 225 เขตทั่วประเทศในการกระตุ้นให้สถานศึกษาต่างๆ ให้ความร่วมมือในการกรอกข้อมูลเข้ามามากขึ้นมาก ทำให้จำนวนโรงเรียนที่ปฏิเสธการรับทุน หรือไม่เข้ามากรอกข้อมูลลดลงอย่างชัดเจนจากปีที่ผ่านมา เพื่อไม่ให้นักเรียนเสียสิทธิในภาคเรียนนี้ โดยมีเขตพื้นที่การศึกษาถึง 122 เขต หรือมากกว่าร้อยละ 54 ที่โรงเรียนในเขตพื้นที่บริการมีการรับรองข้อมูลนักเรียนเข้ามาครบทั้งหมด

สำหรับเงินอุดหนุนอย่างมีเงื่อนไขของนักเรียนทุนเสมอภาค ภาคเรียนที่ 1 กสศ.จัดสรรให้นักเรียน 1,000 บาทต่อคน โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ 1.แบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษา และบรรเทาอุปสรรคการมีเรียน 2.สนับสนุนกิจกรรมพัฒนาทักษะอาชีพนักเรียนทุนเสมอภาคของโรงเรียนซึ่งจะเป็นการขยายผลให้เงินอุดหนุเกิดผลลัพธ์ต่อตัวเด็กนักเรียนอย่างยั่งยืนไม่ใช่เพียงแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเท่านั้น

หากภาคธุรกิจหรือประชาชนทั่วไป จะร่วมสมทบทุนบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือเด็กๆ กลุ่มที่ยากจนที่สุดของประเทศ สามารถเข้าไปบริจาคและใช้สิทธิลดหย่อนภาษี 2 เท่าได้อัตโนมัติ ทาง https://donate.eef.or.th/main-donate

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง
สพฐ. ระดม 225 เขตพื้นที่การศึกษา เร่งช่วยเหลือนักเรียนยากจนทั่วประเทศ