สหภาพยุโรปจัดงานผนึกกำลังเยาวชนอาเซียน-ยุโรป สร้างแผนงานสร้างเมืองที่ยั่งยืนเพื่ออนาคต หวังต่อยอดความสัมพันธ์ระดับภูมิภาคอาเซียน-ยุโรป
31 มีนาคม – 1 เมษายน 2566 สหภาพยุโรปได้จัดงาน เวทีเยาวชน EU-ASEAN เพื่อการพัฒนาเมืองที่ยั่งยืน เป็นเวลา 2 วัน ณ กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 31 มีนาคม และ 1 เมษายน เยาวชนและผู้เชี่ยวชาญจาก 2 ภูมิภาคเข้าร่วมเวทีพูดคุยและเวิร์กช้อปเพื่อร่วมกันนำนำเสนอหลากหลายวิธีการที่จะเปล่งเสียงถึงบทบาทของเยาวชนในการสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนของเมืองต่างๆ ให้ได้ยิน amplify
แผนงานรณรงค์ขับเคลื่อน หรือ campaign roadmap ได้ถูกออกแบบร่วมกันในงานครั้งนี้ ซึ่งจะเป็นแนวทางตั้งต้นสำหรับตัวแทนเยาวชนในการลงมือรณรงค์สร้างความตระหนักรู้กลับไปยังเมืองที่พวกเขาอาศัยอยู่ ผลที่ได้จากการทำงานของเยาวชนกลุ่มนี้จะได้รับการนำเสนอในกาประชุม ASEAN Mayors Forum ในเดือนสิงหาคม 2566
เมื่อวันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา ตัวแทนแกนนำเยาวชนที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจและหลากหลายจากภูมิภาคยุโรปและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้มาร่วมแลกเปลี่ยนพูดคุยกันที่กรุงเทพเป็นเวลา 2 วัน ในประเด็นการพัฒนาเมืองที่ยั่งยืน การยืนหยัดที่จะลุกขึ้นสู้แม้จะต้องเผชิญกับความไม่แน่นอน และการเปิดช่องทางให้ปัจเจกบุคคลและกลุ่มทุกกลุ่มเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของสังคมพลเมืองได้ วงสนทนาเฉพาะกิจครั้งนี้เริ่มต้นในวันที่ 31 มีนาคม ด้วยเวทีความร่วมมือสำหรับเยาวชนและคนทำงานจากภูมิภาคอียูและอาเซียนที่ได้รับการคัดเลือก โดยมีเป้าหมายที่จะเน้นย้ำถึงศักยภาพที่ยังไม่ได้นำมาใช้ของนักแก้ปัญหารุ่นใหม่ในการออกแบบเมืองของตนเองและมองหาวิธีการรูปแบบต่างๆ ที่จะเข้าไปอยู่ในกระบวนการขับเคลื่อนเชิงนโยบายได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ในวันที่ 1 เมษายน ผู้เข้าร่วมได้เริ่มหันมาระดมความคิดร่วมกันในเวิร์กช้อปที่สนับสนุนโดยอียูซึ่งออกแบบขึ้นเพื่อร่วมกันสร้างสรรค์แผนงานรณรงค์ที่จะขยายเสียงของเยาวชนในประเด็นการสร้างการเปลี่ยนแปลงในชุมชนเมืองของพวกเขาให้ดังก้อง เวิร์กช้อปดังกล่าวเป็นแพลตฟอร์มในการวิเคราะห์ทำความเข้าใจกรณีศึกษาที่เยาวชนในภูมิภาคอาเซียนได้พยายามผลักดันเรื่องการพัฒนาเมือง ซึ่งนำไปสู่การพูดคุยถกเถียงที่ทำให้เห็นถึงแนวทางสร้างสรรค์ที่ผ่านมาและแบ่งปันความท้าทายในการทำงานเหล่านั้น
ข้อมูลในการพัฒนาความเป็นเมืองที่ยังไม่ได้ถูกเปิดเผยบอกไว้ว่า ในขณะที่ประชากรโลก 60 เปอร์เซนต์มีแผนที่จะอาศัยอยู่ในเมืองใหญ่ในปี พ.ศ. 2573 หรือ ค.ศ. 2030 (ข้อมูลจากคณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติ (UN Department of Economic and Social Affairs) เยาวชนคนรุ่นใหม่ก็พยายามเข้าไปมีบทบาทท้าทายกับสิ่งที่เกิดขึ้นในบริบทเมืองเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แม้กระนั้น เป็นที่ชัดเจนว่าพวกเขาต้องการแรงสนับสนุนเพิ่มเพื่อยกระดับการแก้ปัญหาของเมืองที่มีหัวใจอยู่บนความยั่งยืน เปิดพื้นที่ให้คนทุกกลุ่มเข้ามาร่วมด้วยช่วยกัน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
อิกอร์ ดรีสมานส์ เอกอัครราชทูตสหภาพยุโรปประจำอาเซียนเน้นย้ำถึงความท้าทายบางประการของการขยายตัวของความเป็นเมือง (urbanization) ที่ทั้งสหภาพยุโรปและอาเซียนเผชิญร่วมกัน พร้อมเพิ่มเติมอีกด้วยว่า “การรณรงค์ครั้งนี้สอดคล้องกับแผนปฏิบัติการงานเยาวชนของกระทรวงต่างประเทศสหภาพยุโรป ปี 2022-2027 (Youth Action Plan in EU external action for 2022-2027) มีเป้าหมายที่จะเอื้อให้เยาวชนเข้าไปมีบทบาทในระดับนโยบายและการตัดสินใจ ผนึกพลังของเยาวชนด้วยทักษะและองค์ความรู้ เชื่อมร้อยให้เกิดการติดต่อสื่อสารระหว่างเยาวชนด้วยกันในสองภูมิภาคเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน”
“อาเซียนหมายถึงการตระหนักร่วมกันถึงศักยภาพเต็มสตรีมของพลเมือง และนั่นรวมถึงเยาวชนด้วย” คุณ Rodora T. Babaran ผู้อำนวยการด้านการพัฒนามนุษย์แห่งประชาสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน (ASEAN Socio Cultural Community – ASCC) ภายใต้สำนักงานเลขาธิการอาเซียน (ASEAN Secretariat) กล่าว “การรณรงค์ครั้งนี้ถือเป็นการจับมือกับสหภาพยุโรปเพื่อหนุนเสริมแผนงานประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน 2025 (ASEAN Socio Cultural Community Blueprint 2025) โดยตรง และนำไปสู่การเปิดช่องให้คนทุกกลุ่มเข้าถึงคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างเท่าเทียมกันและสร้างความยั่งยืนในการพัฒนาสังคมและปกป้องสิ่งแวดล้อม”
เวทีแลกเปลี่ยน 2 วันนี้ ได้บรรลุเป้าหมายสูงสุดในการหลอมรวมความเป็นหนึ่งเดียวกันระหว่างภูมิภาคและเจเนเรชั่น บนการทำงานจริงเพื่อสร้างแผนรณรงค์ของเยาวชน เยาวชนที่เข้าร่วมเวทีครั้งนี้ได้รับการส่งเสริมให้รณรงค์ตามแผนงานในเมืองที่พวกเขาอาศัยอยู่ มุ่งเน้นไปที่การสร้างการตระหนักรู้และการสร้างการมีส่วนร่วมของเยาวชน ผลจากการรณรงค์ในครั้งนี้จะถูกนำเสนอต่อผู้มีอำนาจหน้าที่เชิงนโยบายหรือ policy maker ในการประชุมนายกเทศมนตรีอาเซียน (ASEAN Mayors Forum) ที่จะจัดขึ้นในเดือนสิงหาคมปีนี้ (2566)
นาตาเลีย กัลลิโอ สมาชิกคณะกรรมการของสภาเยาวชนยุโรป (European Youth Forum) กล่าวว่า “คนรุ่นใหม่มักจะถูกมองเฉพาะในมิติของกลุ่มคนที่มีส่วนได้ส่วนเสียในชีวิตยามค่ำคืนหรือในมิติการศึกษา แต่พวกเราถูกมองข้ามในมิติอื่นๆ
ในการสร้างการเปลี่ยนแปลงทางสังคมให้เกิดขึ้นได้จริง เราจำเป็นต้องได้รับการรับฟังเพื่อการตัดสินใจในทุกมิติของการใช้ชีวิตในเมือง การสร้างความร่วมมือและเรียนรู้ระหว่างเจเนอเรชั่นเป็นกุญแจแห่งการเปลี่ยนผ่านของเมืองต่างๆให้คนทุกกลุ่มได้เข้าถึงและสร้างเมืองที่น่าอยู่สำหรับทุกคน”
เคียร่า ยูสรี (Qyira Yusri) ผู้ประสานงานรณรงค์และแอคทีวิสต์เยาวชนจากอาเซียนได้พูดกับเยาวชนในงานครั้งนี้ไว้ว่า “พวกเราอยากให้แคมเปญครั้งนี้เป็นของเยาวชนและสร้างโดยเยาวชนอย่างแท้จริง เรามาร่วมกันที่นี่เพื่อทำให้มันสำเร็จและพร้อมจะสนับสนุนพวกคุณตลอดเส้นทาง เราตื่นเต้นกับไอเดียและการเรียนรู้ที่ได้รับจากแคมเปญนี้ในการประชุม ASEAN Mayors Forum”
ตัวแทนเยาวชน 37 คนจากสหภาพยูโรและอาเซียนที่มาร่วมงานที่กรุงเทพเป็นผู้นำชุมชนที่มีบทบาทในการพัฒนาเมือง ส่งเสริมสิ่งแวดล้อมและสภาพภูมิอากาศ องค์กรตัวแทนในครั้งนี้มีตั้งแต่ European Youth Capital (EYC), European Youth Forum (EYJ), ASEAN Youth Forum (AYF), ASEAN Youth Organization (AYO) และ Association of Young Environmental Journalists (AYEJ) รวมไปถึงรัฐบาลทองถิ่น นักวิชาการ และองค์กรไม่แสวงผลกำไรด้วย










