รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขประกาศเจตนารมณ์ขับเคลื่อนประเทศไทยเพื่อความปลอดภัยของผู้ป่วยและบุคลากรสาธารณสุข เนื่องในวันแห่งความปลอดภัยของผู้ป่วยโลก พร้อมกับนานาประเทศ ตรงกับวันที่ 17 กันยายนของทุกปี และเป็นวันแห่งความปลอดภัยของผู้ป่วยและบุคลากรสาธารณสุขของประเทศไทย เพื่อสร้างระบบบริการสุขภาพที่มีคุณภาพและความปลอดภัย

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงเรื่อง “ประเทศไทยก้าวสู่ระบบบริการสุขภาพที่มีคุณภาพและความปลอดภัยเพื่อทุกคน” โดยมีบุคลากรด้านการแพทย์และสาธารณสุขจากโรงพยาบาลที่เข้าร่วมโครงการทั้งภาครัฐและเอกชน จำนวน 800 คน พร้อมทั้งประกาศเจตนารมณ์ขับเคลื่อนเรื่อง Patient and Personnel Safety เนื่องในวัน The 1st World Patient Safety Day พร้อมกับนานาประเทศทั่วโลก และมอบกิตติกรรมประกาศให้กับโรงพยาบาลที่ประกาศนโยบาย 2P Safety ในปี 2562 จำนวน 208 แห่ง
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ทุกคนต้องมีโอกาสเป็นคนไข้ แม้แต่หมอพยาบาลก็มีโอกาสเจ็บไข้ได้ป่วย และเมื่อทุกคนมาโรงพยาบาลต่างก็มีความคาดหวังว่าจะได้รับบริการที่ดี มีคุณภาพ ให้บริการรวดเร็ว ลดความแออัด สถานที่ดี การบริการดีที่เป็นมิตร ค่าใช้จ่ายเหมาะสม ผมคิดว่าเรื่องความปลอดภัยเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะหากเกิดเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์จากการรักษาพยาบาลใดๆ เกิดขึ้น จะกระทบทั้งผู้ให้ ผู้รับบริการ และอาจต่อเนื่องไปจนถึงครอบครัวและสังคม
ด้าน นพ.กิตตินันท์ อนรรฆมณี ผู้อำนวยการสถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล กล่าวว่า ประเทศไทยได้มีการกำหนดยุทธศาสตร์ความปลอดภัยของผู้ป่วยและบุคลากรทางสาธารณสุข ปี พ.ศ.2561-2564 โดยมีเป้าหมายความปลอดภัยของผู้ป่วยและบุคลากรทางสาธารณสุข เพื่อเป็นแนวทางปฎิบัติ ในการร่วมกันขับเคลื่อนและยกร่างแผนปฏิบัติการยุทธศาสตร์ความปลอดภัยของผู้ป่วยและบุคลากรสาธารณสุข (2P Safety) ของประเทศไทยในระยะเวลา 4 ปี ปัจจุบันมีโรงพยาบาลที่สมัครใจประกาศเป็นโรงพยาบาลเพื่อความปลอดภัยของผู้ป่วย และโรงพยาบาลทุกแห่งในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขเป็นโรงพยาบาล 2P Safety Hospital แล้วทั้งสิ้นจำนวน 370 แห่ง
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมสมัชชาองค์การอนามัยโลก มีมติกำหนดให้วันที่ 17 กันยายนของทุกปี เป็นวันแห่งความปลอดภัยของผู้ป่วยโลก ซึ่งตรงกับวันวันแห่งความปลอดภัยของผู้ป่วยและบุคลากรสาธารณสุขของประเทศไทย โดยครั้งนี้ประเทศไทยจัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 แล้ว นายอนุทิน ระบุว่า นี่เป็นการแสดงให้เห็นว่าประเทศไทยมีความตื่นตัวในการพัฒนาระบบบริการที่สอดคล้องกับทิศทางของโลก และยังครอบคลุมทั้งความปลอดภัยของผู้ป่วยและบุคลากร นำมาซึ่งความร่วมมือ ความไว้วางใจ และการสร้างทีมที่มีเป้าหมายร่วมกันทั้งผู้ให้และผู้รับบริการ โดยเรียนรู้จากข้อผิดพลาดเพื่อพัฒนาระบบบริการให้ผู้ป่วยปลอดภัย และพัฒนาให้พวกเราทุกคนปลอดภัย สิ่งที่ต้องทำในวันนี้คือการช่วยกันสร้างและวางระบบ เพื่อให้ระบบบริการสาธารณสุขมีคุณภาพและความปลอดภัยสำหรับทุกคนในวันข้างหน้า









