“ช่างต่อโลงศพ” ในอินโดนีเซีย อาชีพที่สำคัญอย่างยิ่งในวันที่โควิด-19 ระบาดหนัก

“ช่างต่อโลงศพ” ในอินโดนีเซีย อาชีพที่สำคัญอย่างยิ่งในวันที่โควิด-19 ระบาดหนัก

FEATURES

อินโดนีเซียเป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาโรคระบาด “โควิด-19″​ มากที่สุด โดยมีอัตราการเสียชีวิตสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกเกือบ 2 เท่า สะท้อนปัญหาการขาดแคลนอุปกรณ์ทางการแพทย์และชุดตรวจโควิด-19

กระทั่งวันนี้ (9 เม.ย.) อินโดนีเซียมีผู้ติดเชื้อแล้วเกือบ 3,000 ราย และเสียชีวิต 240 คน ทำให้อินโดนีเซียเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้เสียชีวิตมากที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และมีอัตราการเสียชีวิตมากที่สุดในภูมิภาคด้วย โดยขณะนี้ อัตราการเสียชีวิตในอินโดนีเซียอยู่ที่ร้อยละ 8.11 น้อยกว่าอิตาลี ซึ่งมีอัตราการเสียชีวิตสูงที่สุดในโลกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

 

 

ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขและนักระบาดวิทยา กล่าวว่า จำนวนการตรวจหาเชื้อที่ค่อนข้างต่ำและอัตราการเสียชีวิตที่สูง เป็นสิ่งที่ชี้ให้เห็นว่า อัตราการติดเชื้อที่แท้จริงอาจสูงกว่านี้มาก

ในขณะที่ยังคงมีการถกเถียงกันว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ที่แแท้จริงในอินโดนีเซียมีจำนวนเท่าใดกันแน่ “ซาห์โรนี” ช่างต่อโลงศพก็งานยุ่งจนแทบไม่มีเวลาให้ความสนใจกับเรื่องนี้

ที่โรงงานเล็กๆ ของเขาที่สุสานในหมู่บ้านปอนด็อก เกลาปา ทางตะวันออกของกรุงจาการ์ตา “ซาห์โรนี” วัย 38 ปี ใช้เวลาในการทำงานถึง 16 ชั่วโมงต่อวัน “ปกติเราขายโลงศพได้ 5 ถึง 7 โลงต่อวัน แต่ตอนนี้เพิ่มขึ้นเป็น 20 ถึง 30 โลง

บนชั้นวางที่โรงงานของเขาเต็มไปด้วยโลงศพที่เพิ่งทาสีเสร็จ ขณะที่ด้านนอกเต็มไปด้วยโลงศพสีขาวที่ถูกนำออกมาผึ่งแดด เขาบอกว่า “ตอนนี้เราทำงานกันตั้งแต่เช้าจนถึงเที่ยงคืน”

ปกติแล้ว โรงงานแห่งนี้มักรับผลิตโลงศพสำหรับชาวคริสต์ในอินโดนีเซียที่มีจำนวนค่อนข้างน้อย แต่ตอนนี้ต้องผลิตโลงสพให้กับคนในทุกศาสนา ที่รวมถึงชาวมุสลิมที่ต้องห่อผ้าขาวให้แก่ศพก่อนนำไปฝัง อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่เสียชีวิตหรือคาดว่าเสียชีวิตจากโควิด-19 ได้มีการระบุให้ใช้โลงศพด้วย

ข้อมูลที่รวบรวมโดยสำนักข่าวรอยเตอร์ ชี้ให้เห็นว่า จำนวนพิธีฝังศพในกรุงจาการ์ตา ในช่วงเดือนมีนาคม อยู่ที่เกือบ 4,400 ครั้ง หรือสูงกว่าทุกเดือนในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และผู้ที่เสียชีวิตจากโควิด-19 อาจสูงกว่าตัวเลขที่ทางการระบุ

ข้อมูลจากสำนักงานผู้ว่าราชการกรุงจาการ์ตา ยังชี้ให้เห็นว่า มีการฝังศพผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 มากกว่า 438 ราย ในช่วงระหว่างวันที่ 2 มี.ค. ถึง 6 เม.ย. ขณะที่ตัวเลขอย่างเป็นทางการของรัฐบาลน้อยกว่าเกือบครึ่งหนึ่ง โดยพบว่าในบางกรณี ผู้ป่วยที่ต้องสงสัยว่าติดเชื้อ เสียชีวิตก่อนที่ผลตรวจจะออก ทำให้ต้องเร่งฝังศพตามมาตรการป้องกัน

แต่ไม่ว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตที่แท้จริงจะมีจำนวนเท่าใด ผู้ที่ทำงานอยู่ในอุตสาหกรรมการประกอบพิธีศพในกรุงจาการ์ตา ที่มีประชากรมากกว่า 10 ล้านคน กำลังเตรียมรับมือกับจำนวนผู้เสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

 

 

บริษัทของนายซาห์โรนี ได้กลับมาปิดโรงงานต่อโลงศพในจังหวัดชวาตะวันตกอีกครั้ง เพื่อดำเนินการผลิตโลงศพที่มีราคาถูกกว่า และบริจาคโลงศพกว่า 1,000 โลงให้แก่โรงพยาบาล

นอกจากการผลิตโลงศพแล้ว ผู้ที่รับบทหนักไม่แพ้กันคือ ผู้ให้บริการขนส่งศพไปยังสถานที่ฝังศพ “สุมิยาติ” วัย 48 ปี พนักงานขับรถฉุกเฉินของสำนักงานสุสานและสวนสาธารณะกรุงจาการ์ตา กล่าวว่า “เราต้องแทบไม่ได้หยุดฝังศพผู้เสียชีวิตตั้งแต่เช้าตรู่จนกระทั่ง 4 ทุ่ม และเสริมว่า จำนวนการฝังศพเพิ่มขึ้นจาก 30 เป็น 40 คนต่อวันในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา และเพิ่งมีการเปิดสถานที่ฝังศพแห่งใหม่เมื่อต้นเดือน

ตอนนี้ สุมิยาติ ต้องทำงานโดยสวมชุดป้องกัน ที่ทำมาจากเสื้อกันฝน หน้ากาก และรองเท้าบูท ทำให้ครอบครัวของเธอต้องออกกฎใหม่เมื่อเธอกลับบ้าน “ที่บ้าน ลูกๆ จะเตรียมสเปรย์ฉีดฆ่าเชื้อไว้ให้ และก่อนเข้าบ้านพวกเขาจะฉีดสเปรย์บนตัวเธอ หากไม่ยอม ก็จะไม่ได้เข้าบ้าน นี่เป็นผลมาจากการทำงานนี้ ซึ่งเราต้องยอมรับความเสี่ยง”

แท็กที่เกี่ยวข้อง

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง