หมอสอง – นพ.นพรัตน์ รัตนวราห หมอศัลยกรรมชื่อดัง เจ้าของเพจ “หมอสองท่องโลก” พร้อมครอบครัว เปิดใจหลังถูกลักพาตัวนาน 25 วัน เพื่อเรียกค่าไถ่นาน เผยอยู่ในสภาพสุดลำบาก เหตุการณ์เกิดขึ้นขณะเดินทางท่องเที่ยวระหว่างประเทศบูร์กินาฟาโซและประเทศมาลี ยอมรับ ไว้ใจทัวร์มากไปและไม่ได้หาข้อมูลเพียงพอ ระหว่างถูกจับต้องทำทุกวิถีทางเพื่ออิสรภาพ
หมอสอง เล่าว่า ทริปนี้ไปกับบริษัททัวร์ที่ถูกต้อง ใช้บริการประจำ และไว้ใจมาก และทุกครั้งจะย้ำเรื่องความปลอดภัย ตั้งเป้าเดินทางท่องเที่ยวทั่วโลก ทริปนี้เริ่มจากประเทศอัฟกานิสถาน เริ่มเดินทาง 12 กันยายน 2565 ตั้งใจไปทั้งหมด 9 ประเทศภายใน 3 สัปดาห์ ในวันเกิดเหตุขณะเดินทางหมอสองนอนหลับอยู่บนรถ ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น จึงถามไกด์ว่ามีอะไร ไกด์ตอบว่ารถถูกยิงจากนั้นถูกปืนจ่อ และบังคับให้ลงจากรถ มีการนำผ้ามาปิดตา นำมือไพล่หลัง ขับพาไปที่ไหนไม่รู้ เปิดตามาอีกทีพบว่าอยู่ในป่าแล้ว ก่อนจะพาไปนั่งใต้ต้นไม้ พร้อมถามว่าเป็นใคร ใช่คนที่ตามหาหรือไม่ จึงบอกว่าเป็นนักท่องเที่ยวธรรมดา ซึ่งอีกฝ่ายจะบอกตลอดว่าไม่ต้องกลัว ไม่ทำอันตราย จึงคิดว่าอาจจะได้กลับออกไปในวันรุ่งขึ้น เครียดน้ำตาไหลทุกวัน พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้กลับมาใช้ชีวิตปกติ ตอนแรกพยายามหนี และหนีออกมาได้ประมาณ 8 กิโลเมตร แต่ก็ถูกจับตัวกลับไปอีกและถูกล่ามด้วยโซ่ ใส่กุญแจมือ
คนที่จับตัวมาบอกตลอดว่า ไม่ต้องกังวล ไม่ทำร้าย แค่รอหัวหน้ามาแล้วจะปล่อย ระหว่างถูกคุมตัวไม่ได้มีการข่มขู่ หรือทำร้าย พูดคุยกันปกติ คนร้ายดูแลคอยถามว่าอยากได้อะไรไหม แต่คนที่ถูกจับร้อนใจและทุกข์ทรมานมาก เพราะไม่รู้เขาจะทำอะไรบ้าง พยายามนอนให้หลับ หาเรื่องพูดคุยกับคนร้าย กระทั่งเวลาผ่านไปเกือบ 3 สัปดาห์ หัวหน้าคนร้ายก็มาหา จึงมีการเจรจาต่อรองเพื่อแลกเปลี่ยนเงินกับอิสรภาพ ระหว่างนั้นพยายามทำตัวให้ปกติ มีปัญหาน้อยที่สุด พยายามให้ข้อมูลว่าเราเป็นแค่หมอธรรมดา ไม่ใช่นักธุรกิจ ไม่มีรายได้ เป็นคนไทยไม่ใช่ศัตรู เราสุขภาพไม่ดี มีโรคประจำตัวด้วย การเจรจาต่อรองใช้ภาษาอังกฤษคุยกับไกด์ เพื่อให้ไกด์แปลเป็นภาษาฝรั่งเศส และส่งต่อให้คนขับรถแปลภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาถิ่น โดยการคุยแต่ละประโยคลำบากมาก การเจรจาสำเร็จ เขาสัญญาจะปล่อยตัว
ในวันที่ถูกปล่อยตัวต้องขี่จักรยานยนต์ออกไปที่ถนนลูกรังเล็กๆ ช่วงเวลาประมาณ 02.00 น. จากนั้นให้รอในรถยนต์จนใกล้เช้าถึงจะออกไปได้ ต่อมาประมาณ 04.00 น. คนร้ายบอกทางให้ จึงขับออกไปเจอถนนใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งเจอจุดเช็กพอยท์ของประเทศมาลี และโทรศัพท์ค่อยๆ มีสัญญาณ จึงโทรหาแฟน และครอบครัว มันไม่ง่ายเลยที่รอดออกมาได้ เพราะบางคนถูกขังนานหลายปี ถือเป็นความโชคดี ในความโชคร้ายที่ออกมาแล้วปลอดภัย ตอนนั้นยอมแลกทุกอย่างเพื่ออิสรภาพ
หมอสอง เล่าย้อนไปว่า ตอนถูกจับไปขังมีถุงยังชีพคู่ใจไปด้วย 1 ใบ ในนั้นมียาดม 2 กระปุก เอาไว้ดมผ่อนคลาย มีกระจก ส้อมจากบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไว้สำหรับกินข้าว ปลอกแขนสำหรับสวมกันยุงกัดเพราะยุงกันเต็มแขน และกระดาษวาดรูปคลายเครียด หลังจากนี้จะเอาถุงยังชีพไปเก็บไว้ในตู้ เพราะถือเป็นของที่ระลึกจากประเทศมาลี
“ตอนนี้คงพักก่อน และอาจจะออกทริปต่อ แต่คงต้องระวังตัวมากขึ้น และยังตั้งเป้าอยากเก็บให้ครบทุกประเทศตอนนี้เหลือทวีปอเมริกาใต้อีก 7 ประเทศ และเกาหลีเหนือ เป็นประสบการณ์และความเสียหายที่เกิดขึ้นนับว่าประเมินเป็นมูลค่าไม่ได้” นพ.นพรัตน์ กล่าว
