ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลพบุรี ยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง หลังคนร้ายก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านทอง เป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิต ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในจังหวัดลพบุรี ขณะที่แนวทางการสืบสวน ยังอยู่ระหว่างการไล่ตรวจสอบภารจากกล้องวงจรปิด และหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ทั้งการตรวจสอบลายนิ้วมือ และดีเอ็นเอ
วันนี้ (12 ม.ค.63) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.ณัฐพล ศุกระศร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลพบุรี เปิดเผยถึง กรณีติดตามจับผู้ก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านทอง ว่า เจ้าหน้าที่สอบปากคำพยานบุคคลไปแล้ว 10 ปาก มีข้อมูลที่จะต้องนำมาวิเคราะห์เพื่อหาความเชื่อมโยง ส่วนประเด็นที่มีชาวบ้านออกมาให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนว่า คืนวันที่เกิดเหตุ เวลาประมาณ 3 ทุ่ม เห็นผู้ก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์ฟีโน่ จอดติดไฟแดง บริเวณสี่แยก หน้า รพ.อานันทมหิดล นั้น เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะขอเชิญตัวมาให้ปากคำเพิ่มเติม
ส่วนหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลพบุรี ออกมาระบุว่า ตอนนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเทียบรหัสที่ติดอยู่บนปลอกกระสุน ว่า เป็นตัวเลขกลุ่มเดียวกันหรือไม่ เมื่อมีความชัดเจนจะสามารถติดตามเส้นทางการซื้อขาย นำไปสู่ตัวผู้ก่อเหตุได้
ทีมข่าวได้ย้อนตรวจสอบเส้นทางการหลบหนี เริ่มจากจุดเกิดเหตุ ที่ผู้ก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์ออกมา จากภาพกล้องวงจรปิดจะเห็นผู้ก่อเหตุขี่รถย้อนศรมาจุดกลับรถห่างจากห้าง ประมาณ 200 เมตร ตัดข้ามมาถนนมุ่งหน้าจังหวัดสิงห์บุรี ตลอดข้างทางมีทางเเยกเข้าไปหมู่บ้านสามารถทะลุออกได้หลายเส้นทาง จุดถนนเลียบคลองชลประทานเป็นอีกพิกัดที่ต้องสงสัย
เพราะเป็นเส้นทางเปลี่ยวไม่มีกล้องวงจรปิด สามารถออกอำเภอพุทธบาท จ.สระบุรี ซึ่งหากกลับรถใต้สะพานข้ามมาอีกฝั่งมุ่งตรงไปเข้าสู่ถนนพระปิยะ จะผ่านวิทยาลัยอาชีวะศึกษาลพบุรี และ ผ่านค่ายวชิราลงกรณ์ ข้างทางมีบ้านของประชาชน เป็นอีกหนึ่งข้อสันนิษฐานว่าผู้ก่อเหตุจะกลับเข้ามาในเมือง ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังอยู่ระหว่างไล่กล้อง เจ้าหน้าที่จึงฝากประชาสัมพันธ์ให้ประชาชน ที่พบเห็นบุคคลต้องสงสัยขี่รถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า ฟีโน สีแดงขาว สามารถนำกล้องวงจรปิดมาส่งให้กับตำรวจได้ในทุกพื้นที่
เช่นเดียวกับผู้ประกอบการปั้มน้ำมัน ที่พบภาพผู้ต้องสงสัยขณะเดินทางไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ซึ่งอยู่ในกรอบระยะเวลา 3 – 4 ทุ่ม ก็สามารถนำมาส่งมอบให้ตำรวจได้เช่นกัน
