เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบให้วันที่ 26 เมษายนของทุกปีเป็น “วันจัดประชุมและนิทรรศการแห่งชาติ” เพื่อส่งเสริมการตระหนักถึงคุณค่าและความสำคัญของอุตสาหกรรมไมซ์ที่มีต่อการพัฒนาประเทศมาอย่างยาวนาน นับตั้งแต่การเกิดงานแสดงสินค้าครั้งแรกของประเทศเมื่อวันที่ 26 เมษายน พุทธศักราช 2425 ด้วยพระราชปณิธานของล้นเกล้ารัชกาลที่ 5 ณ ท้องสนามหลวง ซึ่งแม้จะผ่านมาเกือบ 140 ปี แต่ปัจจุบันอุตสาหกรรมไมซ์ก็ยังคงเป็นหนึ่งในกลไกสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศตามนโยบายรัฐบาล
งานแสดงสินค้านานาชาติครั้งแรกในประเทศไทย
อุตสาหกรรมไมซ์ หรือ การจัดประชุมสัมมนา การเดินทางเพื่อเป็นรางวัล การประชุมองค์กร และการจัดงานแสดงสินค้า รวมถึงงานเมกะอีเวนต์และเทศกาลนานาชาติ นับเป็นอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันในการขับเคลื่อนนโยบายสำคัญของชาติ โดยมีสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ หน่วยงานรัฐที่มีบทบาทสำคัญในการผลักดัน ส่งเสริม และพัฒนาอุตสาหกรรมไมซ์ของประเทศไทย แม้ว่าโควิด-19 จะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมไมซ์อย่างมากแต่การดำเนินงานของ ทีเส็บ ที่เน้นการพัฒนาในทุกด้านอย่างต่อเนื่องทำให้มั่นใจได้ว่าประเทศไทยพร้อมแข่งขันทันทีเมื่อสถานการณ์คลี่คลายลง
นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ ทีเส็บ
การประกาศให้ วันที่ 26 เมษายน ของทุกปีเป็น “วันจัดประชุมและนิทรรศการแห่งชาติ” ถือเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของวงการอุตสาหกรรมไมซ์ประเทศไทย โดยประวัติศาสตร์อันทรงคุณค่านี้ถูกถ่ายทอดผ่านหนังสือ “ภูมิไทยเส้นทางทรงคุณค่าของอุตสาหกรรมไมซ์” ซึ่งจัดทำโดย ทีเส็บ ร่วมกับ กองทุนส่งเสริมการจัดประชุมนานาชาติ จะทำให้ชาวไทยทุกคนเกิดความภาคภูมิใจและประจักษ์ในพระอัจฉริยภาพของสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย ที่ทรงมีบทบาทผ่านเรื่องราวของการพัฒนาอุตสาหกรรมไมซ์ของประเทศ
หนังสือ “ภูมิไทยเส้นทางทรงคุณค่าของอุตสาหกรรมไมซ์”
โดยประชาชนทั่วไปสามารถดาวน์โหลดหนังสือ “ภูมิไทยเส้นทางทรงคุณค่าของอุตสาหกรรมไมซ์” ได้ที่ www.businesseventsthailand.com หรือแสกน QR Code ตามที่ปรากฏ ท่านก็จะได้เป็นส่วนหนึ่งในความภาคภูมิใจครั้งนี้
สแกน QR Code
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางยูทูบ https://youtu.be/InE_Ct9F5fI
