สองแถวล็อกคอชกท้อง นศ.หญิงในปั๊ม อ้างแค่ชิงทรัพย์ไม่ได้จะข่มขืน

สองแถวล็อกคอชกท้อง นศ.หญิงในปั๊ม อ้างแค่ชิงทรัพย์ไม่ได้จะข่มขืน

จากกรณีที่ช่วงเที่ยงคืน คืนวันที่ 19 ต่อเช้าวันที่ 20 ธ.ค ตำรวจ สน.ประชาชื่น รับแจ้งเหตุคนร้ายบุกทำร้ายร่างกายผู้หญิงภายในห้องน้ำเพื่อหวังข่มขืน ภายในปั๊มน้ำมันย่านถนนงามวงศ์วาน เขตประชาชื่น กทม. โดยผู้เสียหายเป็นนักศึกษาสาววัย 19 ปี ถูกคนร้ายใช้มือล็อกคอและต่อยเข้าที่ท้องขณะเข้าห้องน้ำ แต่ร้องให้คนช่วยได้ทันคนร้ายจึงรีบหนีไป โดยพลเมืองดีเห็นว่าคนร้ายขับรถสองแถวสีแดงเพื่อหลบหนีจึงขี่รถจักรยานยนต์ตามไปแต่น้ำมันหมด พลเมืองดีอีกคนรับช่วงตามต่อจนเห็นว่าคนร้ายมี 2 คน ก่อนจะหนีไปได้

วันที่ 20 ธ.ค. พ.ต.อ.อิทธิเชษฐ์ วงษ์หอมหวล ผกก.สน.ประชาชื่น เปิดเผยว่า ขณะนี้ตำรวจฝ่ายสืบสวนสามารถติดตามจับกุมตัวคนร้ายได้แล้วชื่อ นายนนทกาจน์ แก้วเอี่ยม อายุ 33 ปี สอบสวนเบื้องต้นเจ้าตัวยังคงอยู่ในอาการมึนเมา โดยให้การภาคเสธว่าได้ก่อเหตุจริง แต่ไม่ประสงค์จะกระทำอนาจาร หรือกระทำชำเราต่อเหยื่อแต่อย่างใด เพียงมุ่งหวังที่จะเอาทรัพย์ เนื่องจากเห็นว่าเหยื่อเป็นผู้หญิง มีกระเป๋าสะพายมาเข้าห้องน้ำตามลำพัง

ขณะเดียวกันยังพบว่าในคืนเดียวกัน นายนนทกาจน์ ยังไปก่อเหตุอีก 2 ที่ คือ ไปที่บ้านของคุณยายวัย 70 ปี เพื่อขโมยโทรศัพท์มือถือ ไอโฟน 11 ทั้งยังได้จับก้นคุณยาย ก่อนหลบหนีไป และเมื่อตำรวจติดตามตัวผู้ก่อเหตุผ่านทางสัญญาณจากโทรศัพท์ไอโฟน 11 จนไปพบ นายนนทกาจน์ อยู่ซอยถัดไป กำลังปีนออกจากบ้านของผู้เสียหายรายที่ 3 ส่วนผู้ก่อเหตุอีกคนได้หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว

ด้าน น.ส.เสาวลักษณ์ ผู้เสียหายอีกราย กล่าวว่า ตนถูกคนร้ายกลุ่มเดียวกันมาขับรถตระเวนลักทรัพย์ตามบ้านในซอยงามวงศ์วาน 31 โดยเมื่อคืนช่วงเวลาประมาณตีสอง ได้ยินเสียงแปลกๆ เหมือนเสียงเปิดหน้าต่างที่ห้องพักชั้นล่าง ก่อนที่ยายอายุ 75 ปี ที่นอนอยู่จะสะดุ้งตื่นขึ้นมาเพราะถูกลูบไล้ร่างกาย ก่อนคนร้ายรีบกระโดดออกจากรั้วหลบหนีไป

เมื่อตนตรวจสอบทรัพย์สินแล้วพบว่าโทรศัพท์ของน้องชายหาย จึงเปิดโหมดติดตามก็พบว่าคนร้ายยังอยู่ไม่ไกล เลยขี่จักรยานยนต์กับน้องชายตามออกไป พบคนร้ายประมาณ 2 คน กำลังปีนออกจากบ้านหลังอื่น พร้อมทรัพย์สินที่ขโมยมาบางส่วนแล้ว พยายามขับรถสองแถวสีแดงหลบหนีและเฉี่ยวชนน้องชายบาดเจ็บ ตนจึงโทรศัพท์แจ้งตำรวจ พร้อมไล่ตามรถสองแถว จนไปหยุดอยู่ที่ซอยงามวงศ์วาน 47 (ชินเขต)

เมื่อเข้าไป พบคนร้ายจับกลุ่มอยู่กับเพื่อนในสภาพเมามายและได้กลิ่นสุรา ก่อนที่ตำรวจจะตามมาจับตัวผู้ก่อเหตุรายหนึ่งได้ ขณะที่อีกรายหลบหนีไป

น.ส.เสาวลักษณ์ กล่าวต่อว่า จากการสอบถามผู้เสียหายรายอื่น ทราบว่าคนร้ายกลุ่มนี้ได้ตระเวนลักทรัพย์ไม่ต่ำกว่า 3 หลัง ในคืนเดียว โดยทรัพย์สินที่ได้ไป ส่วนใหญ่ไม่ได้มีมูลค่ามากนัก ซึ่งคนร้ายอ้างว่าทำไปเพราะไม่มีเงินใช้

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง