วันที่ 18 ม.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดเพชรบูรณ์คุมตัวชายชาวต่างชาติที่ก่อเหตุใช้ธนบัตรใบละ 1,000 บาท ทำทีซื้อสินค้าแล้วขอเงินคืน พร้อมทั้งใช้กลอุบายจนร้านค้าสับสนทอนเงินให้ทั้งที่ไม่ได้จ่ายเงิน ทราบชื่อต่อมาคือ นายมูหะหมัด อามิน ชาวปากีสถาน โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง หลักสี่ กรุงเทพฯ จากนั้นได้ควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเพชรบูรณ์ จ.เพชรบูรณ์
นายมูหะหมัด อามิน ให้การรับสารภาพว่า ตนเองเป็นชาวปากีสถาน เดินทางเข้ามาในประเทศไทยในฐานะนักท่องเที่ยว โดยได้ว่าจ้างรถแท็กซี่จากกรุงเทพฯ ท่องเที่ยวตามจังหวัดต่างๆ พร้อมทั้งได้ก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวมาแล้วหลายครั้ง ซึ่งตนเองก็ไม่รู้ว่าเป็นจังหวัดไหนบ้าง กระทั่งล่าสุดถูกจับกุมได้ที่กรุงเทพฯ เนื่องจากเตรียมที่จะไปขอต่อวีซ่าที่หมดอายุเมื่อวันที่ 16 ม.ค. ที่ผ่านมา
พันตำรวจตรีภูวดล ภูมี สารวัตรตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดเพชรบูรณ์ เปิดเผยว่าชายดังกล่าวได้เข้ามาก่อเหตุในพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์ พฤติกรรมคือจะเข้าไปซื้อสินค้าในร้านที่มีลูกค้าค่อนข้างเยอะและใช้ธนบัตรใบละ 1,000 บาทขอซื้อสินค้าในราคาไม่เกิน 100 บาท จากนั้นก็เปลี่ยนใจคืนสินค้าพร้อมทั้งขอเงินคืน แล้วก็ทำทีเลือกสินค้ารายการอื่นพร้อมทั้งสอบถามเป็นภาษาต่างประเทศพูดจาวกไปวนมา จนพนักงานขายสับสนทอนเงินไปให้ทั้งๆ ที่ไม่ได้จ่ายเงินให้ ซึ่ง จ.เพชรบูรณ์ มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความ 2 ราย เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้ออกหมายจับเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
นอกจากนี้ยังทราบว่าชายคนดังกล่าวยังได้เดินสายไปก่อเหตุในพื้นที่ต่างๆ เช่น จ.พิษณุโลก, อุตรดิตถ์, ขอนแก่น, จันทบุรี และกรุงเทพฯ และคาดว่ามีผู้เสียหายเป็นจำนวนมาก แต่ไม่แจ้งความเนื่องจากว่าเป็นจำนวนเงินค่อนข้างน้อย จึงทำให้คนร้ายย่ามใจ เดินสายก่อเหตุสร้างความเดือดร้อนให้แก่ ร้านค้าเป็นจำนวนมาก โชคดีที่ร้านค้าใน จ.เพชรบูรณ์ ได้แจ้งความดำเนินคดีไว้ จึงทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตามจับกุมตัวได้ในที่สุด
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาฉ้อโกงประชาชน มีโทษทั้งปรับและจำคุก และหลังจากคดีสิ้นสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จะเก็บลายพิมพ์นิ้วมือเข้าสู่ระบบไบโอเมทริก ของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พร้อมทั้งผลักดันออกนอกราชอาณาจักรรวมทั้งระบุเป็นบุคคลต้องห้ามเข้าประเทศไทยอีกต่อไป
