คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงชุดตำรวจ เตรียมเสนอผลสอบต่อผบ.ตร. อังคารหน้า แจ้งข้อหาเสพโคเคน ‘บอส อยู่วิทยา’ เพิ่ม ขณะที่ ‘พ.ต.อ.ธนสิทธิ’ กลับลำให้การใหม่

(แฟ้มภาพ)
วันที่ 7 ส.ค. 2563 พล.ต.ท.จารุวัฒน์ ไวศยะ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วยผบ.ตร.) ในฐานะรองประธานกรรมการสอบสวนชุดตำรวจคดีของนายวรยุทธ อยู่วิทยา เปิดเผยว่า ในวันอังคารที่ 11 สิงหาคมนี้ คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง จะประมวลสรุปผลการตรวจสอบเสนอต่อ พล.ต.อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เพื่อพิจารณาสั่งการ รวมทั้ง กำหนดวันแถลงข่าวชี้แจงต่อประชาชนถึงข้อเคลือบแคลงสงสัยตามกรอบที่กรรมการได้วางแนวทางในการสอบสวนไวโดยเฉพาะประเด็นสาเหตุการสั่งไม่แย้งคำสั่งอัยการในคดีนี้
มีรายงานว่า การประชุมวันนี้เป็นการประชุมของคณะกรรมการชุดย่อยเนื่องจาก ประธานและรองประธานติดภาระกิจ โดยที่ประชุมได้เรียกพลตำรวจโทวิเชียร ตันตะวิริยะ ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ / พลตำรวจโทธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ ทีมงานกองพิสูจน์หลักฐานเข้าให้ข้อมูลในประเด็นเกี่ยวกับความเร็ว
โดยประเด็นที่คณะกรรมการสอบถาม คือ วิธีการตรวจวัดความเร็วของรถยนต์เพื่อนำข้อมูลมาวินิจฉัยว่า ความน่าเชื่อถือของ 2 แหล่ง ระหว่างนายสธน วิจารณ์วรรณลักษณ์ อาจารย์ประจำภาควิชาฟิสิกส์ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและนายสายประสิทธิ์ เกิดนิยม หัวหน้าศูนย์วิจัยเฉพาะทางวิศวกรรมการประเมินและความปลอดภัยยานยนต์ สถาบันฯ พระจอมเกล้านครเหนือ เพื่อพิจารณาความน่าเชื่อถือของข้อมูล หากน่าเชื่อถือทั้ง 2 สถาบัน คณะกรรมการสอบสวนอาจทำความเห็นเสนอผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้หาหน่วยงานกลางมาตรวจพิสูจน์เพิ่ม ซึ่งประเด็นความเร็วรถของนายวรยุทธิ์ขณะนี้ยังไม่เป็นที่ยุติ
ขณะเดียวกันมีรายงานด้วยว่า การเข้าพบพนักงานสอบสวนของพ.ต.อ.ธนสิทธิ แตงจั่น นักวิทยาศาสตร์ สบ.4 กลุ่มงานตรวจเคมีฟิสิกส์ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 1 สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ เมื่อวานนี้ (6 ส.ค.) ซึ่งถูกสอบสวนต่อเนื่อง 2 วัน ปรากฎว่า พ.ต.อ.ธนสิทธิ ได้กลับคำให้ข้อมูลใหม่ระบุว่ าความเร็วรถนายวรยุทธ ขณะเกิดเหตุ 177 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เหมือนในสำนวนครั้งแรก ส่วนที่มาให้การภายหลังเมื่อปี 2559 ว่า ความเร็วลดลงเหลือ 79.23 กิโลเมตรต่อชั่วโมงนั้น ได้อ้างกับคณะกรรมการสอบสวนว่า “สับสนในการคำนวณข้อมูล”
นอกจากนี้ ยังมีรายงานด้วยว่า จากการสอบปากคำแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ได้รับการยืนยันตรงกันว่า สารโคเคนที่พบในเลือดของนายวรยุทธ เกิดจากการเสพโคเคนและแอลกอฮอล์ คณะกรรมการจึงจะเสนอ ผบ.ตร. เพื่อพิจารณาตั้งข้อหาเสพโคเคนเพิ่มเป็นข้อหาใหม่










