ศาล จ.นครสวรรค์ นัดไต่สวนพยานการชันสูตรศพผู้ต้องหาที่ถูก พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธผล อดีต ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ พร้อมพวกใช้ถุงดำคลุมศีรษะและเสียชีวิตเป็นครั้งแรก ขณะที่ตำรวจแถลงพบพิรุธปมสินบนนำจับรถหรู 410 คัน ยึดได้ก่อนแจ้งหายนับร้อยคัน
วันที่ 4 ต.ค. 2564 นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการทนายประชาชนฯ เปิดเผยว่า ศาลจังหวัดนครสวรรค์ได้นัดไต่สวนพยานเกี่ยวกับการเสียชีวิตของนายจิระพงษ์ ธนพัฒน หรือน้องมาวิน เหยื่อที่เสียชีวิตจากการกระทำของ ผกก.โจ้และพวก เพื่อยืนยันการเสียชีวิตว่าผู้ตายเป็นใคร เสียชีวิตอย่างไร เสียชีวิตที่ไหน และเสียชีวิต ประเด็นการเสียชีวิตแบบผิดธรรมชาติ หรือการชันสูตรศพตามกฎหมายตามที่อัยการสรุปสำนวนส่งศาล โดยคนแรกที่ขึ้นให้การในศาลได้แก่ นางจันจิรา ธนะพัฒน์ มารดาของนายจิระพงษ์ เพื่อยืนยันว่าผู้ตายเป็นใคร ส่วนพยานคนอื่นๆ ได้แก่คนในครอบครัว ภรรยาผู้ตาย
นายษิทรา กล่าวว่า ช่วงบ่ายศาลได้นัดไต่สวนตนเองกรณีที่เผยแพร่คลิป โดยศาลให้ยืนยันว่าได้คลิปมาได้อย่างไร ให้ยืนยันว่าผู้อยู่ในเหตุการณ์คือใคร มี อดีต ผกก.โจ้ไหม มีการตัดต่อคลิปหรือไม่ ประเด็นสั้นๆ ไม่มีอะไรมาก ซึ่งก็ได้ยืนยันกับศาลไปตามข้อเท็จจริง หลังจากศาลไต่สวนตนแล้วก็เรียกตำรวจชุดสืบสวนไต่สวนต่อเนื่อง โดยศาลได้ถามเพื่อยืนยันบุคคลในคลิปทั้งหมดว่ามีใครบ้างที่อยู่ในเหตุการณ์ตามภาพที่ปรากฏว่ามีตำรวจผู้ใดบ้างในคลิป
ส่วนในวันพรุ่งนี้ (5 ต.ค.) ศาลเรียกพนักงานอัยการและตำรวจชุดสอบสวน เพื่อยืนยันในสำนวนการสอบสวน และจะนัดฟังคำสั่งศาลเพื่อส่งเข้าไปรวมในสำนวน ในฐานะที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับคดีนี้ จะต้องไปให้การในทุกสำนวน ขณะที่แม่และภรรยาของนายจิระพงษ์หรือน้องมาวิน ขอบคุณทุกคนที่มาช่วยเหลือ พนักงานอัยการ ตำรวจ ช่วงนี้สบายใจขึ้น เพราะมีกระทรวงยุติธรรมมาดูแลช่วยเหลือ
ตร.มั่นใจหลักฐานเอาผิดได้ พบพิรุธสินบนนำจับรถหรู 410 คัน
ด้าน พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม รอง จตช. พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม. พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. ร่วมกันแถลงความคืบหน้าคดี พ.ต.อ.ธิติสรรค์ และพวกรวม 7 คน ซ้อมทรมานผู้ต้องคดียาเสพติดจนเสียชีวิต
พล.ต.อ.สุชาติ กล่าวว่า สำหรับคดีของ อดีต ผกก.โจ้ ขณะนี้มี 4 คดี และมีหลักฐานมากพอที่จะเอาผิดได้แน่นอน โดยเฉพาะคดีซ้อมทรมานผู้ต้องหาจนถึงแก่ชีวิต ขณะนี้คืบหน้าไป 90 % คาดว่าไม่น่าเกินเดือน พ.ย. น่าจะสามารถสรุปสำนวนส่งอัยการพิจารณาได้ ส่วนเรื่องคดีสินบนนำจับรถหรู ตรวจสอบพบว่า อดีต ผกก.โจ้ เกี่ยวข้องกับจับกุมรถหลบเลี่ยงเสียภาษี จำนวน 410 คัน เบื้องต้นพบข้อมูลเป็นรถแจ้งหายไว้ที่ต่างประเทศอย่าง มาเลเซีย และ สิงค์โป รวมจำนวน 270 แบ่งเป็นรถที่ถูกแจ้งหายก่อนตรวจยึด 101 คัน และ รถที่แจ้งหายหลังถูกตรวจยึด 169 คัน ส่วนรถที่เหลือ 140 คัน ยังไม่พบแหล่งที่มา เนื่องจากยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบอย่างละเอียด
พล.ต.อ.สุชาติ กล่าวว่า รถหรู 410 คัน ที่เกี่ยวข้องกับ อดีต ผกก.โจ้ ผิดกฎหมายแน่นอน เพราะวิธีการจับกุมไม่ชอบด้วยกฎหมาย มีการยึดก่อนที่รถจะผ่านเข้าประเทศด้วยซ้ำ และยังพบพิรุธอีกหลายประเด็น รถเหล่านี้ส่วนใหญ่ชาวต่างชาติเป็นคนนำเข้ามา ก่อนบุคคลดังกล่าวจะเดินทางกลับด้วยสายการบิน ซึ่งในส่วนนี้ได้มอบหมายให้ทางตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เร่งตรวจสอบประวัติอย่างละเอียดว่าบุคคลดังกล่าวนำรถเข้ามาในประเทศแล้วกี่คัน เป็นรถคันใดบ้างเพื่อให้หลักฐานมีความแน่นหนา จึงมั่นใจว่าจะสามารถเอาผิด ผกก.โจ้ เกี่ยวกับเรื่องนี้ได้แน่นอน เพียงแต่ขอเวลารวบรวมข้อมูลจากกรมศุลกากรและสถาบันการเงินก่อน
พล.ต.อ.สุชาติ กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้รับข้อมูลเกี่ยวกับรถทั้ง 410 คัน จากทางศุลกากรค่อนข้างมาก ตั้งแต่การเข้ามาของรถ ใครเป็นคนนำเข้ามา ใครเป็นนอมินี และใครได้ประโยชน์จากเรื่องนี้ ทางตำรวจมีข้อมูลหมด แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ ส่วนกรอบเวลาในการสรุปเรื่องนี้ยังไม่สามารถกำหนดให้แน่ชัดได้ เนื่องจากรายละเอียดค่อนข้างมากต้องตรวจสอบให้แน่ชัดเสียก่อน
คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา โดยทนายเดชา ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊ก ทนายคลายทุกข์ ระบุว่า มีตำรวจร้องเรียนมาถึงเรื่องดังกล่าว จากนั้นตำรวจชั้นผู้ใหญ่ได้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง และทนายษิทราได้เปิดเผยคลิปเหตุการณ์ระหว่าง อดีต ผกก.โจ้และพวก กำลังสอบปากคำผู้ต้องหายาเสพติดจนถึงช่วงคลุมถุงดำ นำไปสู่การออกหมายจับ ผกก.โจ้และพวก ซึ่งได้หลบหนีไปและจับกุมตัวได้ในเวลาต่อมา จนถึงกระบวนการดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรม
