9 องค์กรร้อง กมธ.สาธารณสุขให้ประชาชนเข้าถึงยา PrEP หลังประกาศสธ.ทำพิษ

9 องค์กรร้อง กมธ.สาธารณสุขให้ประชาชนเข้าถึงยา PrEP หลังประกาศสธ.ทำพิษ

9 องค์กรภาคประชาสังคม ยื่นหนังสือร้องกมธ.สธ. ปมประกาศจ่ายยาเพร็พให้เฉพาะบัตรทอง ประชาชนกว่า 6 แสนเดือดร้อน

วันนี้ (16 ม.ค.66) เวลา 11.30 น. เครือข่ายองค์กรภาคประชาสังคมที่เกี่ยวข้องกับการจัดบริการเอชไอวีเพื่อยุติปัญหาเอดส์ประเทศไทย 9 องค์กร ร่วมยื่นหนังสือถึงกรรมมาธิการการสาธารณสุข กรณีประชาชนได้รับผลกระทบไม่สามารถเข้าถึงบริการการป้องกันเอชไอวีได้ สืบเนื่องจากประกาศของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) เมื่อวันที่ 28 ธ.ค.2565 เรื่องหลักเกณฑ์การบริหารงบประมาณของสปสช. ปีงบประมาณ 2566 ให้งบบริหารป้องกันและส่งเสริมสุขภาพประชาชนครอบคลุมเฉพาะผู้มีสิทธิบัตรทองเท่านั้น

ส่งผลให้ทำประชาชนผู้มีสิทธิประกันสังคม หรือสิทธิอื่นๆ ที่ก่อนหน้านี้สามารถเข้ารับบริการการป้องกันโรคติดเชื้อเอชไอวีได้ทุกหน่วยบริการของสปสช. ไม่สามารถรับบริการได้ เนื่องจากไม่มีความชัดเจนว่าสิทธิบริดังกล่าวจะสามารถรับบริการได้หรือไม่ ตลอดจนหน่วยบริการตามสิทธิบางหน่วยยังไม่มีบริการด้านการป้องกันเอชไอวี ทำให้ผู้รับบริการกว่า 6 แสนคนได้รับผลกระทบจากประกาศฉบับนี้ 

โดยข้อเรียกร้องถึงคณะกรรมธิการการสาธารณสุขมีดังนี้

1.ในระหว่างที่งบประมาณของสปสช.อยู่ในขั้นตอนการตีความของศาลฎีกาว่าสามารถให้บริการสิทธิอื่นๆ ได้หรือไม่นั้น ให้รัฐมนตรีลงนามให้งบประมาณดังกล่าวสามารถให้ริการการป้องกันโรคติดเชื้อเอชไอวีได้ในระหว่างรอการตีความของศาล

2.กรณีกรมสนัสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) ได้ออกประกาศแนวทางการให้บริการยาป้องกันเอชไอวี (PrEP) ในสถานพยาบาลและองค์กรภาคประชาสังคมที่ให้บริการยาป้องกันโรคเอชไอวีอยู่ในขณะนี้ ว่าหากองค์กรภาคประชาสังคมจะยังให้บริการจ่ายยาป้องกันโรคติดเชื้อเอชไอวีจำเป็นต้องให้บริการร่วมกับหน่วยงานภาครัฐเท่านั้น ส่งผลให้หน่วยบริการยาป้องกันเอชไอวีอย่างน้อยๆ สองแห่งต้องหยุดให้บริการ เนื่องจากต้องหาตัวแทนจากหน่วยงานภาครัฐมาจัดให้บริการใหม่อีกครั้ง รวมทั้งแนวทางที่ได้ประกาศออกมาไม่มีความแน่ชัดว่าองค์กรภาคประชาสังคมที่ให้บริการยาป้องกันโรคสมารถสต็อกยาจ่ายให้กับผู้มารับบริการในวันเดียวกัน  จึงเรียกร้องให้กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ออกแนวทางที่ชัดเจนและรับรององค์กรภาคประชาสังคมให้อยู่ในระบบของกระทรวงสาธารสุขว่าเป็นหน่วยงานที่สามารถให้บริการจ่ายยาป้องกันเอชไอวีและมียาจัดเก็บไว้ที่หน่วยบริการเพื่อยังประโยชน์ให้กับผู้มารับบริการทันทีได้ 

ด้านประธานคณะกรรมาธิการการสาธารณสุขผู้ออกมารับหนังสือร้องเรียน กล่าวว่า ในกรณีที่มีการร้องเรียนของชมรมหรือสมาคมต่างๆ ที่ทำงานเกี่ยวข้องกับเอดส์ หรือเอชไอวี 9 องค์กร เห็นได้ชัดเจนว่าผลของการต่อสู้รณรงค์กับเอชไอวีที่ผ่านมาประเทศไทยประสบความสำเร็จในระดับโลก ได้รับการยกย่องชมเชยจากองค์กรต่างๆ ของต่างประเทศและในประเทศ ฉะนั้นที่ผ่านมาเราก็ทำงานมาได้อย่างราบรื่น แต่ว่ามีประกาศที่ลงวันที่ 28 ธ.ค. 2565 ของรมต.กระทรวงสาธารณสุข ที่ส่งผลให้เกิดการชะงักในการทำงานของ 9 องค์กร ซึ่งทางคณะกรรมมาธิการสาธารณสุขจะได้นำเรื่องที่ร้องเรียนไปศึกษาพิจารณา อย่างน้อยต้องมีคำตอบว่าเหตุผลที่ดำเนินการมีสาเหตุจากอะไร โดยจะมีสองเหตุผล เหตุผลแรกคือเหตุผลทางกฎหมาย อาจจะต้องไปแก้ปฎหมาย เหตุผลที่สอง คือกฎหมายไม่ได้เขียนแต่สามารถดำเนินการแบบอะลุ่มอล่วยมาได้ มันก็ควรจะดำเนินการต่อไปเพื่อประโยชน์ของประชาชนทั้ง 6 แสนคน ตนคิดว่างานนี้มันกระทบต่อประชาชนจำนวนมาก จึงเป็นความจำเป็นของคณะกรรมธิการสาธารณสุขที่จะได้ติดตามพิจารณาศึกษาข้อร้องเรียนนี้ เพื่อให้คำตอบกับทั้ง 9 องค์กร เพราะเราก็ต้องการเร่งแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนผ่านทาง 9 องค์กรนี้

ในวันที่ 18 มกราคม 2566 องค์กรภาคประชาสังคมจะเดินทางเข้าพบอธิบดี กรมควบคุมโรค เพื่อหารือผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการประกาศงบประมาณสปสช.ปี 2566 และแนวทางการให้บริการเพร็พโดยองค์กรภาคประชาสังคม ของกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ซึ่งในขณะนี้ได้มีการยื่น 5,600 รายชื่อที่ผู้ร่วมรณรงค์ผ่าน https://www.change.org/HealthIsRights เพื่อให้กรรมาธิการสาธารสุขดำเนินการต่อไป

แท็กที่เกี่ยวข้อง
PipatpongWriterPipatpong
ผู้สื่อข่าวไทยสายการเมือง และสิทธิ เราเขียนเพื่อการพัฒนา และใช้ทั้งชีวิตอยู่กับตัวอักษร บางวันนอนหลับคาข่าว

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง