กรมราชทัณฑ์ปิดตำนานมนุษย์กินคน ฌาปนกิจร่างซีอุย นักโทษคดีฆาตกรรมเด็ก

วันที่ 23 ก.ค. 2563 เวลา 13.00 น. ที่วัดบางแพรกใต้ จ.นนทบุรี พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เป็นประธานในงานบำเพ็ญกุศลและฌาปนกิจร่างของนายซีอุย แซ่อึ้งอดีตนักโทษประหารชีวิต โดยมีพระครูศรีนนทวัฒน์ เจ้าอาวาสวัดบางแพรก ใต้เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ซึ่งถือเป็นการปิดตำนาน ‘ซีอุย’ มนุษย์กินคน ที่เป็นคดีสำคัญและเป็นที่รู้จักของสังคมอย่างกว้างขวางมายาวนานกว่าครึ่งศตวรรษ

อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า นายลีอุย หรือซีอุย แซ่อึ้ง เป็นชาวจีนที่เข้ามาอาศัยอยู่ในประเทศไทย ราวๆ ปี พ.ศ.2489 ที่อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และถูกจับกุมในปี พ.ศ.2501 เนื่องจากก่อคดีสะเทือนขวัญฆาตกรรมเด็กที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กรุงเทพมหานคร และนครปฐม ศาลฎีกาได้ตัดสินประหารชีวิต กรมราชทัณฑ์ในฐานะหน่วยงานบังคับโทษตามคำพิพากษาของศาลจึงได้ดำเนินการประหารชีวิตนายซีอุย เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2502 ณ เรือนจำกลางบางขวาง จากนั้นศพได้ถูกนำไปจัดแสดงเพื่อศึกษาที่พิพิธภัณฑ์นิติเวชศาสตร์ สงกรานต์ นิยมเสน เพื่อเป็นวิทยาทานให้เกิดการเรียนรู้ทางด้านนิติเวชศาสตร์ ตั้งแต่ พ.ศ.2502 จนกระทั่งในปี พ.ศ.2562 ได้มีการยกเลิกการจัดแสดงร่างของนายซีอุย แซ่อึ้ง และ นำออกจากพิพิธภัณฑ์ เนื่องจากอาจเข้าข่ายหมิ่นประมาทหรือละเมิดสิทธิของผู้เสียชีวิต พร้อมทั้งให้ประกาศติดตามหาญาติของนายซีอุย เพื่อเปิดโอกาสให้ญาติได้ดำเนินการเกี่ยวกับศพให้เหมาะสม แต่เมื่อครบกำหนดไม่มีบุคคลใดที่สามารถแสดงตัวว่าเป็นทายาทหรือญาติของนายซีอุย

พ.ต.อ.ณรัชต์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อเป็นการคืนศักดิ์ศรีและความยุติธรรมให้แก่นายซีอุย กรมราชทัณฑ์จึงได้มีหนังสือถึงคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อขอรับศพนายซีอุยมาจัดพิธีบำเพ็ญกุศลและฌาปนกิจตามประเพณีอย่างเหมาะสมในวันนี้

ด้านนายเทิดพร มโนไพบูลย์ อายุ 69 ปี อดีตนักแสดงนำในบทบาทของซีอุยทางโทรทัศน์ เดินทางมาร่วมงานฌาปนกิจนายลีอุย หรือ ซีอุย แซ่อึ้ง อดีตนักโทษประหารโดยกรมราชทัณฑ์ร่วมกับคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ที่วัดบางแพรกใต้ จ.นนทบุรี หลังจากที่มีการเรียกร้องทวงสิทธิความเป็นมนุษย์ ให้นำร่างซีอุยออกจากพิพิธภัณฑ์ศิริราช ไปประกอบพิธีศพ หลังถูกจัดแสดงภายในพิพิธภัณฑ์กายวิภาคศาสตร์มากว่า 60 ปี และเคยถูกแปะป้ายว่า มนุษย์กินคน
เทิดพร บอกว่ามากล่าวขอบคุณซีอุยที่ให้ตนได้รับบทบาทนักแสดงมีชื่อเสียง ซึ่งหากดวงวิญญาณต้องการสื่อสารให้ตนทำอะไร ตนก็พร้อมทำ ส่วนในช่วงที่รับบทแสดง ตนรู้สึกคลางแคลงใจกับเรื่องที่เล่าต่อมา เพราะในสมัยนั้นการเดินทางไม่ได้สะดวก เป็นไปได้ยากที่คนๆ เดียวจะก่อเหตุในหลายพื้นที่ห่างไกลกัน
“ขอบคุณครับ ขอบคุณที่ให้ชื่อกับผม ประวัติของคุณทำให้คนรู้จักผมมากขึ้น ก็ขอให้เขาไปดีครับ ถ้าเขายังติดต่อหรือยังสื่อสารได้อยู่ อยากได้อะไรมาบอกผม ผมจะทำให้ทุกอย่างเลยครับ”










