จนถึงทุกวันนี้ ชื่อของ Pfizer คงคุ้นหูเรากันดีแล้ว เมื่อ Pfizer เป็นหนึ่งในวัคซีนป้องกันโรค COVID-19 ที่มีประสิทธิภาพสูง และมีบทบาทเด่นในการช่วยให้เรากลับมาใช้ชีวิตปกติกันได้อีกครั้ง ซึ่งในช่วงที่ทั่วโลกกำลังระดมกำลังผลิตวัคซีนป้องกันโรคนั้น เมืองแห่งหนึ่งในเบลเยียมก็ได้กลายมาเป็นฐานผลิตสำคัญของ Pfizer จนทำให้เกิดการจ้างงานมหาศาลในพื้นที่แห่งนั้น
และสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากขาดการสนับสนุนจากภาครัฐ
เมืองดังกล่าวมีชื่อว่า เพียร์ส (Puurs) ซึ่งก่อนที่เมืองนี้จะกลายมาเป็นฐานผลิตตัวยาสำคัญของโลกเรานั้น ต้องย้อนความไปก่อนว่า ช่วงศตวรรษที่ 19 เมืองเพียร์สเคยเป็นพื้นที่เพาะปลูกทั่วๆ ไป แต่พอเข้าสู่ช่วงกลางศตวรรษที่ 20 ทางรถไฟและถนนสายใหม่หลากหลายเส้นทางก็ถูกสร้างขึ้น เชื่อมโยงเพียร์สไปยังเมืองแอนต์เวิร์ป (Antwerp) เมืองท่าสำคัญของเบลเยียม แถมเพียร์สยังตั้งอยู่กึ่งกลางระหว่างสนามบินบรัสเซลส์และท่าเรือแอนต์เวิร์ป ทำเลที่ตั้งนี้ทำให้เพียร์สกลายเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในการขนส่งสินค้าต่างๆ
แถมในช่วงเวลาเดียวกันนั้น รัฐบาลเบลเยียมก็ออกกฎหมายหลายฉบับเพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศมากขึ้น ทำให้การลงทุนจากบริษัทการแพทย์และเคมีต่างประเทศ เช่น Alcon และ Upjohn เริ่มหลั่งไหลเข้าสู่ภูมิภาคนี้ รวมถึง Pfizer ที่เข้ามาซื้อทุนต่อจาก Upjohn ในช่วงปี 1963
ด้วยทำเลที่ตั้งและการสนับสนุนจากรัฐบาล เพียร์สจึงกลายเป็นหนึ่งในโรงงานผลิตและบรรจุภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดของ Pfizer ทั่วโลก ในยุคก่อน COVID-19 เมืองเพียร์สมีการจ้างงานอยู่ราว 2,500 คน และมีการผลิตวัคซีนและยามากกว่า 400 ล้านโดส ไปยังตลาดต่างๆ อีก 175 แห่งทั่วโลก ขณะที่เบลเยียมเองก็ติดท็อปสามอันดับแรกของสหภาพยุโรปในด้านการส่งออกยา ร่วมกับเยอรมนีและไอร์แลนด์
ความสำเร็จนี้เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้โรงงานในเมืองเพียร์สถูกเลือกให้ผลิตวัคซีนป้องกัน COVID-19 เมื่อช่วงกลางเดือนมีนาคม ปี 2020 โดยในอีกสามเดือนต่อมา อุปกรณ์สำหรับการผลิตชิ้นแรกก็มาถึง แล้วในเดือนกรกฎาคมปีเดียวกัน ตู้แช่แข็งเครื่องแรกที่ใช้เก็บวัคซีนได้ก็ถูกส่งไปยังเมืองเพียร์ส ตามมาด้วยการผลิตชุดการรักษาทางคลินิกชุดแรก จากนั้นภายในต้นเดือนกันยายน ก็มีการผลิตชุดทดสอบขนาด 140 ลิตรชุดแรก
ในเดือนพฤศจิกายนปี 2020 โรงงานเมืองเพียร์สจัดส่งวัคซีนชุดแรกออกไปยังสหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกา แล้วในวันที่ 11 ธันวาคมปีนั้น สหรัฐฯ ก็ได้รับรองวัคซีน COVID-19 ของ Pfizer ซึ่งกลายเป็นวัคซีน mRNA ตัวแรกของโลกที่ได้รับการอนุมัติ
แม้ทุกวันนี้ โลกเราจะปรับตัวอยู่ร่วมกับ COVID-19 แล้ว แต่ Pfizer ก็ยังคงลงทุนในเบลเยียมต่อไปโดยเน้นด้านความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีขั้นสูง การฝึกอบรมพนักงาน และการวิจัยทางวิชาการในระดับสูง
ด้วยเหตุนี้ แฟรงก์ เบกซ์ (Frank Beckx) หัวหน้าสหพันธ์เคมีในแฟลนเดอร์ส ภูมิภาคหนึ่งในเบลเยียม จึงเรียกสิ่งนี้ว่า ‘มรดกทางเภสัชกรรม’ ซึ่งเขามองว่า มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่ชาวเบลเยียมกลายมาเป็นหนึ่งในผู้มีชื่อเสียงในอุตสาหกรรมนี้ ไม่ว่าจะเป็น พอล สโตฟเฟลส์ (Paul Stoffels) หัวหน้าเจ้าหน้าที่วิทยาศาสตร์ของ Johnson & Johnson หรือปีเตอร์ ปิอ็อต (Peter Piot) หนึ่งในผู้ค้นพบไวรัสอีโบลา และที่ปรึกษาพิเศษเกี่ยวกับไวรัสโคโรนาของประธานคณะกรรมาธิการยุโรป
เช่นเดียวกับ ฮิลเด เครวิตส์ (Hilde Crevits) รองรัฐมนตรี-ประธานาธิบดีของรัฐบาลแห่งฟลานเดอร์ส แคว้นหนึ่งของเบลเยียม ที่กล่าวว่า เบลเยียมลงทุนไปเยอะมากในด้านการศึกษาและการวิจัยระดับอุดมศึกษา ทำให้ประเทศมีบุคลากรที่มีการศึกษา และโรงพยาบาลเชิงวิชาการซึ่งบริษัทยาสามารถทำงานร่วมกันในการทดลองทางคลินิกได้ นอกจากนี้เบลเยียมยังมีระบบภาษีผู้รับประโยชน์สำหรับการวิจัยทางวิทยาศาสตร์และการใช้สิทธิบัตรอีกด้วย
ไม่เพียงเท่านั้น Essenscia สหพันธ์ข้ามภาคส่วนของอุตสาหกรรมเคมีและวิทยาศาสตร์เพื่อชีวิตแห่งเบลเยียม ก็เห็นด้วยว่านโยบายของรัฐบาลช่วยให้ภาคเภสัชกรรมของประเทศเจริญรุ่งเรืองเช่นกัน อย่างการจัดตั้งสถาบันเทคโนโลยีชีวภาพ เป็นต้น
“ความตั้งใจของรัฐบาลช่วยสร้างระบบนิเวศที่สำคัญที่ทำให้บริษัท มหาวิทยาลัย และบริษัทต่างๆ ร่วมมือกันได้” เบกซ์กล่าว
นอกจากนี้ เมืองเพียร์สยังเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่อัตราการว่างงานต่ำที่สุดในแอนต์เวิร์ปอีกด้วย โดยในปี 2023 โรงงานผลิตและบรรจุภัณฑ์ที่เมืองเพียร์สมีการจ้างอยู่ประมาณ 4,500 คน เพิ่มจากช่วงก่อน COVID-19 ราว 2 เท่า ยิ่งกว่านั้น บริษัทยาอย่าง Novartis, Alcon และสตาร์ทอัพท้องถิ่นอย่าง Purna ก็มีการจ้างงานในทุกระดับ ตั้งแต่งานในห้องปฏิบัติการไปจนถึงการขนส่งและทำความสะอาด จนมีคำกล่าวที่ว่า เกือบทุกคนในเมืองเพียร์ส จะต้องรู้จักใครสักคนที่ทำงานให้บริษัทเหล่านี้
“มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าเราสนองความต้องการของ Pfizer เกินไป” แวน เดน ฮิวเวล (Van den Heuvel) จาก N-VA พรรคการเมืองชาตินิยมเฟลมิช กล่าว
“แต่เมื่อดูจากการสร้างงานให้กับครอบครัวของเราจำนวนมาก การสนองความต้องการบางอย่างก็ควรยินยอม และความสำเร็จของวัคซีนนี้ไม่เพียงทำให้ทั้งเมืองของเราภาคภูมิใจ แต่ยังนำไปสู่การจ้างงานใหม่อีกด้วย”
อ้างอิงจาก
https://www.politico.eu/article/belgium-town-puurs-spotlight-coronavirus-vaccine/
https://www.jpost.com/health-and-wellness/coronavirus/article-735181#google_vignette
#กลิ่นความเจริญ
#Pfizer
#วัคซีน
#COVID19










