ผ่านไปแล้วกับงาน ‘TCP-SPONSOR RUN: RUN TO REFRESH 2025’ ที่จัดขึ้น ณ สนามศุภชลาศัย งานวิ่งที่แม้แต่ฟ้าฝนยังเป็นใจ โปรยความสดชื่น ชุ่มฉ่ำ ตั้งแต่ยังไม่ปล่อยตัว แต่พอนาฬิกาเริ่มนับถอยหลัง นักวิ่งพร้อมกัน ณ จุดปล่อยตัว ฝนก็หยุดตกทันที เหมือนตั้งใจตกเพื่อชาร์จพลังให้นักวิ่งสดชื่นไว เพื่อไปให้สุดขีดจำกัดของตัวเอง


กลุ่มธุรกิจ TCP เจ้าของแบรนด์ สปอนเซอร์ เครื่องดื่มเกลือแร่อันดับหนึ่งของไทยก็พร้อมเติมพลังให้ทุกคนเช่นกัน ด้วยการต่อยอดจัดงานวิ่งปีที่ 2 ให้เข้มข้น สดชื่นไว ไปให้สุด กับสปอนเซอร์ ไอโซโทนิก พร้อมรีเฟรชโลก รีเฟรชไลฟ์ และมาพร้อมพันธกิจที่จะอยู่เคียงข้างทุกคน ช่วยคืนความสดชื่นให้ร่างกาย และสนับสนุนให้ทุกคนลุกขึ้นมาออกกำลังกาย เติมพลังให้พร้อมลุยต่อทุกกิจกรรมเหมือนอย่างที่เคย

และนอกจากจะเป็นงานวิ่งของสายวิ่งตัวจริงแล้ว สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือ กลุ่มธุรกิจ TCP มุ่งมั่นที่จะปลุกพลังให้กับผู้คน สังคม และสิ่งแวดล้อม คอนเซ็ปต์การจัดงานจึงมาครบทั้ง ปลุกพลังนักวิ่ง คืนพลังความสดชื่นให้โลก และส่งต่อพลังความสดชื่นให้ผู้คนและสังคม ผ่านพาร์ทเนอร์ที่ร่วมด้วยช่วยกันรักษาโลกใบนี้ให้ดีไปอีกนานๆ สมกับเป็นอันดับ 1 ของเครื่องดื่มเกลือแร่และยังรักษ์โลกด้วย

[พาทัวร์บรรยากาศงานสุดเข้มข้น สดชื่นไว ไปให้สุดผ่าน ICONIC เพื่อนักวิ่งโดยเฉพาะ]
เริ่มกันที่ ICONIC แรก ‘Run With No.1’ ที่ปลุกพลังให้นักวิ่งทั้งงานกับเหล่านักกีฬาฮีโร่ ไม่ว่าจะเป็น วิว กุลวุฒิ, หน่อง ปลื้มจิตร, เฟรม ธนาคาร และ ปอป้อ ทรัพย์สิรี ที่มาร่วมวิ่งเคียงบ่าเคียงไหล่ไปพร้อมกับทุกคน

ระหว่างทางยังมีเหล่า Pacer สายซัพฯ มาคอยช่วยอัปพลังใจ ส่งแรงเชียร์ให้นักวิ่งก้าวข้ามขีดจำกัดทำลายสถิติตัวเองกันทุกระยะวิ่ง และยิ่งมีกลุ่มธุรกิจ TCP ที่ไม่มีทางจะให้นักวิ่งหมดความสดชื่น เตรียมเครื่องดื่มให้นักวิ่งเติมความสดชื่นแล้วทะยานไปให้ถึงเส้นชัยด้วยกัน

ถ้าพูดถึง ICONIC ที่สร้างรอยยิ้มให้กับนักวิ่ง ต้องยกให้จุดถ่ายภาพ Congratulations Record ที่แสดงสถิติที่นั่งวิ่งทำได้แบบ Real time โดยลิงค์กับข้อมูลที่นักวิ่งลงทะเบียนมา
แต่ถ้าให้นักวิ่งโหวตว่าชอบอะไรที่สุดในงาน ‘ไอศกรีมไอโซโทนิก’ ต้องติดท็อปลิสต์แน่นอน ครั้งแรกและครั้งเดียวกับไอศกรีมไอโซโทนิกที่ทำขึ้นมาเป็นพิเศษเพื่อแจกในงานนี้เท่านั้น
แน่นอนว่าส่วนผสมหลักทำมาจาก ‘สปอนเซอร์ไอโซโทนิก’ เครื่องดื่มเกลือแร่ในรูปแบบ ‘ไอโซโทนิกดริงก์’ สูตรหวานน้อย สดชื่นไว เหมาะสำหรับนักกีฬาและคนที่มีไลฟ์สไตล์แอ็กทิฟ ช่วยเติมพลังได้ทุกที่ทุกเวลา

นอกจากจะทำเป็นไอศกรีม ภายในงานยังแจก ‘สปอนเซอร์ไอโซโทนิก’ ให้นักวิ่งได้เติมความสดชื่นตลอดทั้งงาน เครื่องดื่มที่เกลือแร่สูตรใหม่หวานน้อย ดื่มง่าย หอมกลิ่นส้มคาลามานซี เหมาะสำหรับคนทุกกลุ่มที่ทำกิจกรรม ทั้งออกกำลังกาย เล่นกีฬา ที่มีการสูญเสียเหงื่อ สูญเสียพลังงาน ช่วยคืนความสดชื่น สมดุลเกลือแร่ และฟื้นฟูร่างกายได้เร็วกว่า

ที่สำคัญ มาในขวดพลาสติก PET ที่นาไปรีไซเคิลได้100% พร้อมฝารักษ์โลกแบบไม่หลุดจากขวด ช่วยลดการหลุดรอดสู่สิ่งแวดล้อม เพิ่มความสะดวกในการนำกลับเข้าสู่ระบบรีไซเคิลได้อย่างมีประสิทธิภาพ

[พาส่องกิมมิกรักษ์โลกแบบคนครีเอท]
อย่างที่เล่าไป งานวิ่งปีนี้ไม่ได้ซัพพอร์ตเฉพาะพลังใจนักวิ่ง แต่ะยังซัพพอร์ตพลังใจของสายกรีนที่อยากเห็นโลกดีขึ้นด้วย เห็นได้จากกิมมิกที่ถูกหยอดและสอดแทรกไว้ตลอดทั้งงาน ไม่ว่าจะเป็น เสื้องานวิ่งและสายคล้องเหรียญ ที่ผลิตจากขวดพลาสติก PET ใช้แล้ว ใส่แล้วรู้สึกเหมือนได้ช่วยรีเฟรชโลกไปพร้อมกัน



ครีเอทจริงอะไรจริงต้อง ‘ถ้วยรางวัลต้นไม้ฟอกอากาศ’ ถ้วยรางวัลสุดรีเฟรชที่มอบให้ผู้ชนะไปเพิ่มโอโซนให้กับพื้นที่รอบตัวอีกต่อ
นอกจากนี้ บรรจุภัณฑ์ภายในงาน ไม่ว่าจะเป็นแก้วหรือภาชนะใส่อาหารก็ทำมาจากเยื่อพืช จบงานแล้วจะมีพาร์ทเนอร์ที่เชี่ยวชาญเรื่องการรีไซเคิลนำไปย่อยเป็นดินเพื่อปลูกต้นไม้ต่อไป
[เข้าเส้นชัยแบบสดชื่นทั้งคุณ สังคม และโลก]
เส้นชัยในการทำเพื่อโลกครั้งนี้ คือการบริหารจัดการขยะภายในงานให้ครบลูป ด้วยความตั้งใจที่จะลดก๊าซเรือนกระจกให้มากที่สุดด้วยการจัดการขยะตามหลัก 3R (Reduce, Reus,. Recycle) ให้เป็น Zero Waste to Landfill และส่วนที่ไม่สามารถลดได้ จะมีการชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกด้วยคาร์บอนเครดิตจากการอนุรักษ์ป่าในพื้นทีโครงการพัฒนาดอยตุง จังหวัดเชียงราย โดยมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์

เป็นที่มาของคอนเซ็ปต์เท่ๆ ‘งานวิ่งที่ไม่ 0 เปล่า’ เพราะไม่มีขยะสู่บ่อฝังกลบ คิดจริง ทำจริง จนได้รับเครื่องหมาย Net Zero Event จากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก ว่าเป็นกิจกรรมชดเชยคาร์บอนแบบรับรองตนเอง (Self-Declaration)
เห็นได้จากการจัดให้มีจุด Drop Points ภายในงาน โดยจับมือกับพาร์ทเนอร์ร่วมรักษ์โลก 4 พันธมิตร แบ่งหน้าที่กันตามความถนัด รวบรวมขยะในงานเพื่อนำไปรีไซเคิลและอัพไซเคิล ได้แก่ GC YOUเทิร์น รับหน้าที่นำขวดพลาสติกไปอัปไซเคิลให้เป็นเสื้อวิบวับสำหรับเจ้าหน้าที่ กทม. ส่วนกระป๋องอะลูมิเนียมทาง Aluminum Loop จะนำไปสมทบทุนมูลนิธิขาเทียม สำหรับขวดแก้ว พาร์ทเนอร์อย่าง BSR จะนำไปทำขวดแก้วรีไซเคิล และบรรดาเสื้อผ้ามือสอง เป็นหน้าที่ของ SC GRAND ที่จะไปอัปไซเคิลให้กลายเป็นของที่ระลึก

จริงๆ ยังมีหน่วยงานอื่นๆ ที่เห็นมาร่วมไม้ร่วมมือจัดการความสะอาดและขยะประเภทอื่นๆ ภายในงานเช่นกัน อย่างอาหารเหลือทาง SOS จะนำไปแจกจ่ายต่อให้กับผู้ที่ต้องการ ส่วนบรรดาขยะเปียก ก็ได้ กทม. เขตปทุมวัน มานำไปทำเป็นปุ๋ยปลูกต้นไม้ของเขต และแก้วชีวภาพที่นำมาใส่น้ำเปล่าให้นั่งวิ่งภายงานทาง Gracs รับไม้ต่อเอาไปทำดินเพาะกล้าแล้วมอบต้นกล้านั้นให้กับเกษตรกรต่อไป

บอกเลยว่านี่ไม่ใช่แค่งานวิ่งธรรมดาๆ ที่แค่มาวิ่งเพื่อทำเวลาและเอาก้าวข้ามศักยภาพของตัวเอง เพราะทุกคนที่มาร่วมงานจะได้กลับไปมากกว่าเหรียญรางวัลและสถิติการวิ่งใหม่ แต่ได้เห็นถึงความตั้งใจของของกลุ่มธุรกิจ TCP ที่ยังคงใส่ใจสิ่งแวดล้อมในทุกก้าวผ่านกิจกรรม และวิธีบริหารจัดการต่างๆ การผลึกกำลังพันธมิตร ไปจนถึงการเชิญชวนให้ทุกคนร่วมกันจัดการขยะแบบ Zero Waste การแยกขยะตามหลัก 3R และอีกมากมาย
เพราะแค่ก้าวเล็กๆ ที่ทุกคนร่วมวิ่งในงานนี้ ก็สามารถส่งต่อเป็นพลังสำคัญในการดูแลโลกใบนี้ไปด้วยกัน










