สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยจัดโครงการอบรมเชิงปฎิบัติการ “การรายงานข่าวในสถานการณ์ความขัดแย้งและภัยพิบัติ Safety training รุ่นที่ 10” ระหว่างวันที่ 20-23 มิถุนายน 2562 ที่ผ่านมา เพื่อเตรียมความพร้อมบุคลาการข่าวในการทำข่าวท่ามกลางสถานการณ์ฉุกเฉิน เช่น การเกิดภัยพิบัติ หรือในสถานการณ์ที่มีการต่อสู้ ซึ่งครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมอบรมรวม28 คน จากทั้งสื่อหนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ และสื่อออนไลน์
ในระยะแรก หลักสูตรเป็นการอบรมเรื่องความขัดแย้งรุนแรงอย่างเดียวจากวิทยากรต่างชาติ แต่หลังเกิดเหตุการณ์ความขัดแย้งในประเทศไทยในปี 2553 นักข่าวถูกมองว่าเป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้ง ทั้งที่จากเดิมที่เคยเป็นเพียงกลุ่มคนที่รายงานเหตุการณ์ จึงมีการริเริ่มให้ฝึกฝนให้นักข่าวจะต้องไม่เป็นผู้ขยายความขัดแย้งและไม่ส่งต่อและแก้ปัญหาข่าวปลอม หรือ fake news หลักสูตรในระยะหลังจึงมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบให้เข้ากับสถานการณ์ความรุนแรงในประเทศ วิทยากรชุดใหม่ที่มาจากผู้อบรมในชุดแรกก็เพิ่มการให้ความรู้เป็นหลักสูตรการรายงานข่าว
นายสถาพร พงษ์พิพัฒน์วัฒนา หัวหน้าทีมวิทยากร ให้ข้อมูลว่าจุดประสงค์หลักของการอบรม คือ ต้องการให้นักข่าวสามารถทำงานได้แม้จะอยู่ในสถานการณ์ความรุนแรง และต้องไม่ตกเป็นเครื่องมือของกลุ่มความขัดแย้งใดใด ที่ใช้วาทกรรมในการโต้ตอบไปมา รวมถึงทีมข่าวต้องมีความปลอดภัยในการทำงานภายใต้ภาวะความรุนแรง นอกจากนี้ยังมีการอบรมเรื่องการกู้ชีพในสถานการณ์ฉุกเฉิน เพราะ หากอยู่ในสถานการณ์ความขัดแย้งและพบเห็นคนเจ็บจะได้สามารถช่วยเหลือได้ในเบื้องต้น
นอกจากนี้ ช่วง2-3ปีที่ผ่านมา มีการเพิ่มหลักสูตรเรื่องการรายงานข่าวในสถานการภัยพิบัติ และ การกู้ภัยทางน้ำเข้าไปด้วย เพราะ ในปัจจุบันมีภัยพิบัติเกิดขึ้นต่อเนื่องและมีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะ อุทกภัย ทั้งนี้เพื่อยกระดับเป็นการรายงานข่าวเพื่อการเตือนภัย จากเดิมที่ส่วนใหญ่การรายงานข่าวจะเน้นเพียงการรายงานเหตุการณ์
นายจีรพงษ์ ประเสริฐพลกรัง อุปนายกฝ่ายสิทธิเสรีภาพและการปฎิรูปสื่อ ระบุว่า ภารกิจของสมาคม มี 3 ส่วน คืองานวิชาการให้ความรู้ งานประสานกับต่างประเทศ ฝ่ายสิทธิเสรีภาพและการปฎิรูปสื่อ ซึ่งดูแลงานด้านการปฎิรูปสื่อ
สำหรับผลลัพธ์ของการอบรมครั้งนี้สมาคมฯ คาดหวังให้ผู้เข้าอบรมนำความรู้ที่ได้ไปปรับใช้ในการรายงานข่าวเพื่อให้ได้ข่าวเชิงลึกมากขึ้น ในหลักคิดว่า การลงพื้นที่ไปทำข่าวทีมข่าวต้องมีความปลอดภัยด้วย
ปีนี้การอบรมฯได้รับการสนับสนุนจากหลายภาคส่วน ได้แก่ กสทช. กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ สหภาพแรงงานกลางสื่อมวลชนไทย สถาบันการแพทย์ฉุกเฉิน(สพฉ.) ทีมกู้ภัยใจถึงใจคนไทยไม่ทิ้งกัน ไทยรัฐออนไลน์ PPTV HD36 และดอยคำ
