สารคดีเชิงข่าว ชุด “ SLAPPs ฟ้องปิดปาก ปิดเสียง” ทีมข่าวเวิร์คพอยท์นำเสนอเรื่องราวของ 4 บุคคล ใน 4 จังหวัดที่ลุกขึ้นมาปกป้องสิทธิ์จนถูกฟ้องในคดีต่างๆ
ตอนที่ 2 ออกอากาศวันที่ 27 ส.ค. 62 ไปที่จังหวัดปราจีนบุรี เรื่องราวของครอบครัวชื่นจิตรกับการต่อสู้เรียกร้องความเป็นธรรมในคดีตำรวจซ้อมทรมาน สู่การเป็นต้นแบบผลักดัน พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย
https://m.youtube.com/watch?v=6KrPlsVlEs0&feature=youtu.be

ฤทธิรงค์ ชื่นจิตร เหยื่อถูกซ้อมทรมาน
ลูก คือสิ่งเดียวที่เยียวยาสภาพจิตใจของนายฤทธิรงค์ ชื่นจิตร เหยื่อจากการถูกซ้อมทรมานเมื่อปี 2552 การคลุมถุงและทำร้ายร่างกายครั้งนั้น ทำให้ฤทธิรงค์ ป่วยเป็นโรค PTSD ตั้งแต่อายุ18 ปีจนถึงปัจจุบัน ฤทธิรงค์ไม่สามารถใช้ชีวิตสังคมนอกบ้านได้
เกือบ 10 ปี ครอบครัวชื่นจิตรเดินหน้าต่อสู้เรียกร้องความธรรม กระทั่งปี 2561 ศาลอุทธรณ์ภาค 2 มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นว่า นายฤทธิรงค์ถูกเจ้าหน้าที่ทำร้ายร่างกายจริง และมีคำสั่งจำคุกตำรวจ 1 นาย โดยให้รอลงอาญา
แต่ในระหว่างการพิจารณาศาลอุทธรณ์ ตำรวจนายหนึ่งในจำเลย 7 คนยื่นฟ้องนายฤทธิรงค์จากคำบรรยายฟ้องในศาลชั้นต้นในข้อหา เบิกความเท็จ ทั้งที่ การฟ้องนี้ขัดต่อคำพิพากษาศาลชั้นต้นที่ระบุว่านายฤทธิรงค์เบิกความตามความจริง และตำรวจรายนั้นทำร้ายร่างกายจริงเพียงแต่ขาดอายุความ
10 ปีที่เดินหน้าต่อสู้คดีหลักแล้ว ระหว่างทาง ต้องก้าวสู้คดีแทรก มูลนิธิผสานวัฒนธรรมมองว่าฤทธิรงค์เข้าข่ายถูกฟ้อง SLAPPs เป็นการฟ้องกลับเหยื่อที่ลุกขึ้นเรียกร้องสิทธิ์ที่เขาถูกกระทำ

สมศักดิ์ ชื่นจิตร พ่อเหยื่อซ้อมทรมาน
สมศักดิ์ ชื่นจิตรผู้เป็นพ่อ พาดูอู่ซ่อมรถที่กลายเป็นอดีต เพราะได้ขายกิจการนำเงินมาต่อสู้คดี รวมถึงจำนองบ้านและที่ดิน 2 แปลง ปัจจุบันเหลือเพียงร้านขายอะไหล่รถจักรยานยนต์เป็นแหล่งรายได้เดียวของครอบครัว
หลายครั้ง ที่ครอบครัวชื่นจิตรต้องท้อใจกับความยุ่งยากของคดี แต่ไม่ใช่เหตุผลที่จะทำให้เขาเลิกสู้

ครอบครัวชื่นจิตรกลายเป็นบรรทัดฐานพลเมืองต่อสู้คดีที่มีเจ้าหน้าที่รัฐใช้กลไกกฎหมายมายุติ ซึ่งเป็นวิธีปกปิดการซ้อมทรมาน
เช่นเดียวกับคณะกรรมการนักนิติศาสตร์สากล หรือ ICJ ให้ความสำคัญกับคดีนี้ โดยมาร่วมสังเกตการณ์ในวันนัดสืบพยาน เพราะครอบครัวชื่นจิตรจะเป็นต้นแบบในการผลักดัน พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย โดยเฉพาะข้อ13 ของอนุสัญญาว่าด้วยการต่อต้านการทรมาน รัฐมีหน้าที่คุ้มครอง ไม่ให้เหยื่อถูกข่มขู่คุกคามและมีสิทธิ์ร้องเรียนความเป็นธรรม
( ข้อ 13 “รัฐภาคีแต่ละรัฐต้องประกันว่า ปัจเจกบุคคลที่อ้างว่าตนถูกทรมานในอาณาเขตใดก็ตามที่อยู่ภายใต้อำนาจของรัฐนั้น มีสิทธิที่จะร้องทุกข์เจ้าพนักงานผู้มีอำนาจของรัฐนั้น ที่จะทำให้ได้รับการพิจารณาตรวจสอบโดยพลัน โดยปราศจากความลำเอียง โดยเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจของรัฐนั้น ให้ดำเนินขั้นตอนทั้งปวงเพื่อประกันว่า ผู้ร้องทุกข์และพยานได้รับความคุ้มครองให้พ้นจากการประทุษร้ายหรือการข่มขู่ให้หวาดกลัวทั้งปวงอันเป็นผลจากการร้องทุกข์หรือการให้พยานหลักฐานของบุคคลนั้น”)
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
- SLAPPs ฟ้องปิดปาก ปิดเสียง (1) : ฟ้องหมิ่น! รองผอ. หลังร้องตรวจสอบงบอาหารกลางวัน
- SLAPPs ฟ้องปิดปาก ปิดเสียง (3) : น้ำตาชาวซับหวาย เมื่อลุกป้องสิทธิ์ผืนทำกิน
- SLAPPs ฟ้องปิดปาก ปิดเสียง (4) : ภาพจำ 2 ปีชาวเทพา ในวันที่เข้มแข็งกว่า
- SLAPPs ฟ้องปิดปาก ปิดเสียง (5) : ทางออก ทางแก้ ทางตัน คดีฟ้อง SLAPPs ในไทย









