SLAPPs ฟ้องปิดปาก ปิดเสียง (4) : ภาพจำ 2 ปีชาวเทพา ในวันที่เข้มแข็งกว่า

สารคดีเชิงข่าว ชุด “ SLAPPs ฟ้องปิดปาก ปิดเสียง” ทีมข่าวเวิร์คพอยท์นำเสนอเรื่องราวของ 4 บุคคล ใน 4 จังหวัดที่ลุกขึ้นมาปกป้องสิทธิ์จนถูกฟ้องในคดีต่างๆ

ตอนที่ 4 ออกอากาศวันที่ 29 ส.ค. 62 นำเสนอย้อนรอยเรื่องราวเหตุการณ์ของกลุ่มเทใจให้เทพา กับวันที่เจ้าหน้าที่รัฐเข้าจับกุมในวันที่เดินมายื่นหนังสือค้านโรงไฟฟ้าถ่านหินกับนายก รัฐมนตรี ในวันนี้ผ่านมา 2 ปี พวกเขารู้สึกอย่างไร

https://www.youtube.com/watch?v=BecOwY20q7c

อุโมงค์ป่าโกงกาง อายุร้อยกว่าปีครอบคลุมพื้นที่หลายร้อยไร่ ระบบนิเวศอุดมสมบูรณ์ของป่าชายเลนในอำเภอเทพา จ.สงขลา ทำให้เราเห็น นก ปลา หอยและสัตว์นานาพันธุ์ใช้ชีวิตตามวัฎจักร

เช่นเดียวกับวิถีชีวิตของชาวบ้าน ยังคงจับปลา หาหอย หาปูด้วยเครื่องมือภูมิปัญญาท้องถิ่น ใช้เวลาไม่นาน พวกเขาสามารถยังชีพได้ด้วยทรัพยากรทางทะเลที่สมบูรณ์

ร่องเนินทรายที่ขุดไว้ ชาวบ้านบอกว่าเป็นการเตรียมพื้นที่สร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา ซึ่งพวกเขาได้คัดค้านเพราะโครงการขาดการมีส่วนร่วมของประชาชน

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2560 กลุ่มชาวบ้านเครือข่ายคนสงขลา-ปัตตานี เดินเท้าในนาม “เครือข่ายเทใจให้เทพา หยุดโรงไฟฟ้าถ่านหิน” มีจุดหมายยื่นหนังสือให้นายกรัฐมนตรี แต่แล้วมีการปะทะกันระหว่างชาวบ้านกับเจ้าหน้าที่รัฐ มีการจับกุมแกนนำ 17 คน

รุ่งเรือง ระหมันยะ ชาวบ้าน 1ใน 17 คนเล่าว่าการจับกุมในครั้งนั้นทำรุนแรงเกินกว่าเหตุ

ความผิดตามพ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ และพกพาอาวุธ ข้อกล่าวหาที่รุนแรง ส่งผลต่อวงเงินประกันตัวสูงขึ้น ทำให้แกนนำ 17 คน ต้องถูกคุมขัง

ผ่านมา 1 ปี ศาลยกฟ้อง 15 คน ยกเว้น 2 คน ในข้อหาไม่แจ้งการชุมนุม สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชนมองว่า การส่งฟ้องศาลกับแกนนำกลุ่มเทใจให้เทพา คือการฟ้อง SLAPPs เป็นรูปแบบสกัดกั้นสิทธิประชาชนตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 50 (8) ซึ่งเป็นการออกแบบโดยใช้เงื่อนไขกระบวนการยุติธรรมจำกัดเสรีภาพของประชาชน

แม้ผ่านมากว่า 2 ปี แต่ภาพจำของเหตุการณ์ยังไม่เคยจางหาย ชาวบ้านเทพากล่าวด้วยถ้อยคำที่หนักแน่นว่า หากรัฐยังไม่ฟังเสียงประชาชนอย่างจริงใจ พวกเขาพร้อมลุกขึ้นสู้ต่อ แม้ว่าจะต้องถูกจับกุมอีกกี่ครั้งก็ตาม

เรื่องที่เกี่ยวข้อง