อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ คือมาตรการที่รัฐบาลร้องขอให้ทุกคนปฏิบัติ เพื่อลดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 มาตรการนี้เป็นส่วนหนึ่งของ Social Distancing หรือ การเว้นระยะห่างทางสังคม ที่หลายประเทศกำลังรณรงค์ใช้กัน เพราะมีความสำคัญที่จะช่วยลดอัตราการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสจากคนสู่คนได้
“ในคนปกติ เวลาพูดคุยกัน จะมีละอองที่ฟุ้งออกไปกับน้ำลายในระยะ 1 เมตร ละอองดังกล่าวมีขนาดเล็กกว่า 5 ไมครอน จำนวน 3,000 ละออง นี่เป็นเหตุผลที่นักวิทยาศาสตร์ออกมาบอกว่า เราจำเป็นต้องอยู่ห่างกันประมาณ 2 เมตร” ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล กล่าว
หลักการของ Social Distancing คือ โรคติดต่อจะไม่ติดต่อ ถ้าคนไม่ติดต่อกัน ในกรณีที่ประชาชนเดินออกจากบ้าน นาทีที่ออกจากบ้านร่างกายอาจยังไม่มีเชื้อ แต่หากมีการปฏิสัมพันธ์กับใครก็ตามที่ไม่ทราบว่ามีเชื้อยู่ในร่างกายหรือไม่ อาจทำให้มีโอกาสที่จะได้รัยเชื้อเข้ามาในร่างกาย เชื้อไวรัสโควิด-19 ในระยะแรกจะไม่มีอาการ หากประชาชนนำเชื้อกลับไปแพร่ที่บ้าน สมาชิกในครอบครัวจึงอาจติดเชื้อต่อไปได้อีก
โควิด-19 ไม่ใช่หวัดธรรมดา เพราะไวรัสจากไข้หวัดธรรมดา จะมีอัตราการแพร่ระบาดอยู่ที่ 1.3 หมายความว่าผู้ติดเชื้อ 1 คน จะสามารถแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่นได้อีก 1.3 คน ส่วนเชื้อไวรัสโควิด-19 มีอัตราการแพร่ระบาดอยู่ที่ 2.2 แม้จะเป็นตัวเลขที่เล็กน้อย แต่ผลกระทบที่ได้ต่างกันโดยสิ้นเชิง

แต่หากประชาชนทุกคนแสดงความรับผิดชอบ โดยงดกิจกรรมที่เกิดขึ้นภายนอกคนละอย่างสองอย่าง เช่น งดสังสรรค์ งดเดินทาง และกักตัวอยู่ที่บ้านให้มากที่สุด จะสามารถช่วยลดโอกาสแพร่และติดเชื้อ รวมถึงลดจำนวนผู้ป่วยจากหลักหมื่นหลักแสน ไปสู่หลักสิบหลักร้อยได้
ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล กำชับว่า “ถ้าไม่ทำอะไร เรายังปล่อยเป็นแบบเดิม ทุกคนยังออกจากบ้าน ยังไปใช้ชีวิต อยู่ในสังคม ยังเจอและพูดคุยกันอยู่ เมื่อหลายคนมีอาการมันเป็นมากขึ้น คนไข้เหล่านี้อาจจำเป็นต้องใช้เครื่อง ECMO ที่ช่วยพยุงการทำงานของปอดและหัวใจ เมื่อลองสำรวจศักยภาพที่ประเทศเรามี ถ้ามาถึงจุดนี้ เราอาจต้องเจอเหตุการณ์เหมือนกับที่อิตาลี คือไม่สามารถรักษาได้ ต้องเลือกว่าจะรักษาใคร ผมไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์เหล่านั้น”
Social Distancing ไม่ใช่แค่การหยุดอยู่บ้าน หรือเว้นระยะห่างเฉย ๆ แต่ยังรวมไปถึงการเลี่ยงใช้ภาชนะ หรือสิ่งของต่าง ๆ ร่วมกัน งดแตะสัมผัสร่างกายกันโดยไม่จำเป็น เหล่านี้จึงจะเป็นการเว้นระยะห่าง ที่สามารถหยุดเชื้อได้อย่างสมบูรณ์ เมื่อประเทศไทย สามารถลดจำนวนผู้ติดเชื้อลงได้ นั่นอาจหมายถึงช่วงเวลาที่สั้นลง ในการต้องกักตัวอยู่เฉย ๆ
อย่าลืมเว้นระยะห่าง เพื่อสังคม และคนที่คุณรัก เพราะการรับผิดชอบตนเอง หมายถึงการรับผิดชอบชีวิตคนรอบข้างของคุณด้วย










