วันที่ 11 ก.ค. 62 มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เปิดเผยข้อมูลการสุ่มตรวจชานมไข่มุก 25 ตัวอย่าง เพื่อหาสารกันบูด น้ำตาล และตะกั่ว พบว่า ไม่มีสารตะกั่วเจือปน และทุกชนิด มีสารกันบูด แต่อยู่ในระดับที่ไม่เกินค่ามาตรฐาน ที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยากำหนด คือ 1,000 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม แต่พบว่าค่าเฉลี่ยปริมาณน้ำตาลอยู่ที่ประมาณ 10.5 ช้อนชา ซึ่งเกินจากปริมาณที่คนควรได้รับต่อวัน
โดยชานมไข่มุกที่มีปริมาณน้ำตาลต่อแก้วน้อยที่สุด อยู่ที่ 4 ช้อนชา หรือ 16 กรัม ส่วนยี่ห้อที่มีปริมาณน้ำตาลมากที่สุดคือ 18.5 ช้อนชา หรือ ประมาณ 74 กรัม โดยเฉลี่ย 25 แก้ว มีปริมาณน้ำตาลอยู่ที่ 10.5 ช้อนชา
นางสาวสารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ระบุว่า ปริมาณน้ำตาลที่คนควรจะได้รับต่อวัน องค์การอนามัยโลก หรือ WHO ได้กำหนดอยู่ที่ 6 ช้อนชา แต่จะพบว่าในชาไข่มุก 1 แก้ว ก็มีปริมาณน้ำตาลเกินกว่าที่ควรจะได้รับ ยิ่งหากกินร่วมกับอาหารอื่นที่ใส่น้ำตาล ก็จะยิ่งทำให้ได้รับปริมาณมากเกินจำเป็น และปัญหาที่ตามมาคือ โรค เบาหวาน ความดันโลหิต
