
เจอแล้วศพเมียถูกฆ่าฝังในสวยลำไยของสามี ตำรวจพอทราบเบาะแสที่หลบซ่อน เร่งตามจับตัว พ่อผู้เสียชีวิตไม่อโหสิกรรม ขอโทษประหารชีวิต ด้านพ่อแม่ผู้ก่อเหตุ น้ำตาตกใน บอกลูกทำเสียชื่อที่สั่งสมมา ขอให้รีบมอบตัว
จากกรณีนายทึ่ง ปิงขอด อายุ 81 ปี ชาวจังหวัดกำแพงเพชร เข้าแจ้งความว่านางปราณี อินธิมา อายุ 54 ปี บุตรสาว ได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยนาน 3 เดือน คาดว่าน่าจะเสียชีวิต แล้วศพถูกฝังในสวนลำไยของนายอนุชา คำพา อายุ 45 ปี สามี ที่พื้นที่หมู่ 4 ต.นาโบสถ์ อ.วังเจ้า จ.ตาก ซึ่งญาติได้ออกตามหา จนไปพบฟันและเส้นผมจำนวนหนึ่งในสวน ส่วนนายอนุชา ได้หลบหนีออกจากพื้นที่ อ้างว่าไปทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ

ล่าสุด วันที่ 9 ต.ค. 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.ไสว ครุฑผาสุก รอง ผบก.ภ.จว.ตาก และ พ.ต.อ.การุณ วงศ์จันทรมณี ผกก.สภ.วังเจ้า นำกำลังชุดสืบสวนปูพรม ค้นหา จำนวนกว่า 20 นาย ลงพื้นที่สวยลำไยของนายอนุชา สามีผู้เสียชีวิต สุดท้ายพบศพ นางปราณี ฝังอยู่ในดินใต้กอไผ่ ท้ายไร่อ้อย ฝั่งตรงข้าม ของสวนลำไยของนายอนุชา ประมาณ 150 เมตร ศพถูกหมกในดินขุดลงไป ลึกประมาณ ครึ่งเมตร อยู่ในสภาพเน่าเปื่อยส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง ตามร่างกายมีร่องรอยการถูกทำร้ายหลายแห่ง เสียชีวิตมาประมาณ 20 วัน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึง ได้ประสาน แพทย์เวรจากโรงพยาบาลวังเจ้าเดินทางมาชันสูตรพลิกศพ พร้อมติดต่อนายทึ่ง พ่อของผู้ตาย พร้อมด้วยญาติเดินทางมา เพื่อยืนยัน ทันทีที่พ่อของผู้ตายและญาติมาเห็นศพ ก็ยืนยันว่าเป็นศพของนางปราณี ผู้ตาย
อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวน จะได้ขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดตาก เพื่อจับกุมนายอนุชา สามีผู้ตาย ซึ่งอยู่กับนางปราณีเป็นคนสุดท้าย ซึ่งทาง พ.ต.อ.ไสว ครุฑผาสุก รอง ผบก.ภ.จว.ตาก เผยว่า ขณะนี้ได้ส่งชุดสืบสวน ลงพื้นที่ติดตามคนร้าย คาดว่าหลบหนีไปจังหวัดแห่งหนึ่งทางภาคใต้ หรือ ในกรุงเทพ แต่ไม่มองข้ามพื้นที่ จ.ตาก และ จ.กำแพงเพชร ขณะนี้พอทราบข้อมูลที่หลบซ่อนของคนร้ายแล้วแต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ คาดว่า จะสามารถติดตามจับกุมตัวนายอนุชา มาดำเนินคดีได้ภายใน 3-7 วัน

ด้านนายทึ่ง พ่อของผู้เสียชีวิต เล่าว่า อยากให้นายอนุชา คนร้ายมามอบตัว ยอมรับสิ่งที่ทำลงไป และขอให้ลงโทษให้ถึงที่สุดประหารไม่ขออโหสิกรรมให้นายอนุชา เพราะ คนร้ายกระทำการอย่างโหดเหี้ยม
ด้านนายสำรวย นางมณีวรรณ พ่อแม่ผู้ก่อเหตุ เผยว่า รู้สึกเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่ลูกชายมาก่อเหตุฆาตรกรรมนางปราณี ลูกสะใภ้ แม้หลักฐานจะยังไม่ชัดเจน แต่ก็คาดการณ์ไปว่าทุกอย่างเกิดขึ้นเป็นความจริง รู้สึกเสียใจจนน้ำตาตกใน ที่นายอนุชา ลูกชาย ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงวงศ์ตระกูลที่พ่อได้ทำความดีสั่งสมมาตลอดชีวิต ก็อยากให้ลูกมามอบตัว เพราะจากหลักฐานมันไม่สามารถเป็นคนอื่นได้แล้ว
ทั้งนี้ พ่อแม่นายอนุชา ยังบอกอีกว่า ทั้ง 2 คน ลูกชายและลูกสะใภ้ชอบดื่มสุราเป็นประจำ แต่นางปราณี ลูกสะใภ้ ก็ดูแลพวกตนอย่างดี ผิดกับลูกชาย ที่ก้าวร้าว มักตบตีเมีย และเคยตีพ่อ ด่าหยาบคาย แจกของลับให้ด้วย จนระยะหลังพ่อแม่ ไม่อยากพูดด้วย

ชาวบ้านในพื้นที่ เปิดเผยว่า เคยจ้าง 2 ผัวเมีย ทำงาน ฉีดพ่นยาฆ่าหญ้าในไร่สวนของตนเอง ต่างก็ทำงานขยันขันแข็งนิสัยดี แต่ทั้ง 2 คนเวลาเมาสุรา นายอนุชา ก่อเหตุทะเลาะวิวาท เคยเห็นนางปราณีมีร่องรอยบอบช้ำตามใบหน้า ซึ่งนายอนุชา อ้างว่าภรรยาลื่นล้ม ก่อนที่นายอนุชา จะหายตัวไป ยังมาขอทำงานรับจ้าง โดยบอกว่า ตนเองเป็นม้ายแล้ว เพราะนางปราณีหนีไปอยู่กับแฟนเก่า ไม่กลับมาแล้ว ส่งไปแล้ว ตนเองก็ร้สึกหวาดกลัวท่าทีของนายอนุชา จึงให้ลูกๆ มาอยู่ด้วยที่บ้าน จากนั้นไม่นานนายอนุชาก็หายตัวออกไปจากพื้นที่









