ตำรวจ 191 ติดตามแท็กซี่ทำร้ายผู้โดยสารเพื่อชิงทรัพย์ได้แล้ว พฤติกรรมโหดพา 2 สาวเกาหลีออกนอกเส้นทางไปที่เปลี่ยวก่อนใช้เหล็กฟาดผู้เสียหายที่มึนเมาและทิ้งไว้ริมถนน โดยชิงโทรศัพท์มือถือไปขายหาเงินใช้
วันที่ 7 มิ.ย. เวลา 16.00 น. ที่กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ 191 (บก.สปพ.) พล.ต.ต.สำราญ นวลมา ผบก.สปพ. แถลงการจับกุม นายธนเดช ธนาถิรพงศ์ อายุ 51 ปี ชาวกรุงเทพฯ โชเฟอร์แท็กซี่ที่ก่อเหตุทำร้ายร่างกาย ก่อนชิงโทรศัพท์มือถือนักท่องเที่ยวสาวชาวเกาหลีใต้ 2 เครื่อง มูลค่ารวม 54,000 บาท
พล.ต.ต.สำราญ กล่าวว่า ช่วงดึกของวันที่ 3 มิ.ย. ที่ผ่านมา สายด่วน 191 ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีคนร้ายทำร้ายร่างกายและชิงทรัพย์นักท่องเที่ยว ในซอยวิภาวดีรังสิต 8 จึงไปตรวจสอบ พบผู้เสียหายเป็นสาวเกาหลี 2 ราย ให้การกับตำรวจว่าโดยสารรถแท็กซี่จำสีและทะเบียนไม่ได้ มาจากบริเวณห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านถนนรัชดาภิเษก โดยจะมุ่งหน้าไปยังจังหวัดสมุทรปราการ แต่ปรากฏว่าโชเฟอร์แท็กซี่กลับพาออกนอกเส้นทาง
จนถึงจุดเกิดเหตุซึ่งเป็นที่เปลี่ยวได้ลงมือใช้ท่อนเหล็กแป๊บทุบตีและชิงทรัพย์ โทรศัพท์มือถือซัมซุงกาแล็กซี เอส 8 พลัส ราคา 2.6 หมื่นบาท และซัมซุงโน้ต 9 ราคา 2.8 หมื่นบาท ไปจากพวกตนซึ่งอยู่ในอาการมึนเมา ก่อนคนร้ายจะทิ้งพวกตนไว้และขับรถหลบหนีไป กระทั่งมีผู้พักอาศัยละแวกนั้นเข้ามาพบเห็นและได้แจ้งกับตำรวจ
ต่อมาเจ้าหน้าที่จับกุมนายธนเดช ได้ที่หน้าบ้านพักภายในซอยอินทามระ 3 ถนนสุทธิสารวินิจฉัย แขวงสามเสน เขตพญาไท กรุงเทพฯ เป็นโชเฟอร์ที่ขับรถแท็กซี่สีส้มทะเบียน ทฬ 2373 กรุงเทพ คันที่ก่อเหตุ
พ.ต.ต.ไพบูลย์ กล่าวว่า จากการสอบสวนนายธนเดช ให้การรับสารภาพว่าที่ทำไปเพราะทะเลาะกับผู้เสียหาย เนื่องจากไม่ได้กดมิเตอร์ค่าโดยสาร จากนั้นได้นำโทรศัพท์ไปขายต่อให้ร้านขายโทรศัพท์มือถือรายหนึ่งย่านห้วยขวาง ได้เงินมาเครื่องละ 5 พันบาท โดยนำไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบประวัติพบคนร้ายถูกดำเนินคดีฐานลักทรัพย์ในท้องที่ สภ.พระประแดง ปี 2556 โดยลวงให้ผู้เสียหายให้ลงไปช่วยเข็นรถ ก่อนรีบหนีไปพร้อมสัมภาระมูลค่ากว่า 2 แสนบาท
เบื้องต้นแจ้งข้อหา ชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายและใจ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
