The Ministry of Ungentlemanly Warfare หรือในชื่อภาษาไทยว่า ‘แสบจารชน คนพลิกโลก’ ฟังแค่ชื่อก็พอจะทราบได้ว่าเรื่องนี้จะต้องเป็นหนังแอ็คชั่นดุเดือด ที่แฝงไปด้วยความแสบของตัวละครแน่นอน
เปิดฉากต้นปี 2024 ด้วยผลงานอันร้อนระอุของผู้กำกับชื่อดังอย่าง กาย ริซซี่ ได้หยิบเอาเรื่องจริงของหน่วยปฎิบัติการลับทางทหาร ในปฎิบัติการ Operation Postmaster ที่เป็นคำสั่งตรงของนายกรัฐมนตรีของอังกฤษในขณะนั้น อย่าง วินสตัน เชอร์ชิลล์ ในหนังสือบันทึกประวัติ เหตุการณ์พลิกโลกอย่างสงครมโลกครั้งที่สองของ ดาเมียน ลูอิส ในชื่อ ‘Churchill’s Secret Warriors : The Explosive True Story of The Special Forces Desperadoes of WWII
หากว่าเรื่องราวการปฎิบัติการครั้งนี้มันไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป เพราะว่าวิธีการและแผนการกองโจรตัดกำลังรบของนาซีครั้งนี้ไม่ได้ถูกใจหรือเป็นที่ยอมรับของทางการอังกฤษมากนัก นั่นก็เพราะว่าทีมทหารกองโจรนี้ต้องลักลอบเข้าไประเบิดท่าเรือดำน้ำของนาซีในสเปน และอาจจะทำให้เกิดปัญหาระหว่างประเทศได้ จนสุดท้ายนายกรัฐมนตรีเซอร์ซิลก็ดั้นด้นที่จะส่งหน่วยปฎิบัติการนี้เข้าไป และก็ทำภารกิจล่มเรือนาซีนี้สำเร็จจนได้
ในแง่ของการเล่าเรื่องของผู้กำกับ Guy Ritchie ครั้งนี้นั้น ได้ย่อยประวัติศาสตร์ลงมาอยู่ในหนัง 2 ชั่วโมงเศษได้อย่างลงตัว แต่ก็แฝงไปด้วยความดูง่ายด้วยเช่นกัน ซึ่งนั่นอาจจะไม่ได้ถูกใจของคอหนัง(ของ Guy Ritchie) หลายคนมากนัก แต่สำหรับใครไม่ได้เป็นคอหนังประวัติศาสตร์หรือหนังแนวแอ็คชั่น บู๊บ้าระห่ำอยู่แล้ว ก็หายห่วง และสามารถดูเรื่องนี้ได้อย่างมีอรรถรส และเข้าใจได้ง่ายแน่นอน
ส่วนในการแสดงของทีมปฎิบัติการ กับนักแสดงทั้ง 7 คนนั้น ถือว่าทำได้ดีเยี่ยมมาก ในเรื่องของการวางตัวละครให้มีลุคที่แตกต่างกัน มีความโดดเด่นในแบบของตัวเอง รวมทั้งการเลือกแคสติงที่คิดมาแล้ว และถือว่าเลือกมาถูกจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Alan Ritchson ที่มาพร้อมมาดเท่ ใครอย่คิดที่จะขวาง เพราะเขาพร้อมที่จะเด็ดหัวได้ตลอดเวลา หรือ Henry Caviill พ่อหนุ่มคมเข้มกับการมารับบทคราวนี้ก็ได้ใส่เพิ่มความบ้าและดิบเถื่อนลงไป แต่ก็ยังคงความหล่อเท่ไว้ได้เสมอ
บทสรุปคือ The Ministry of Ungentlemanly Warfare (สำหรับคนที่ไม่ได้ติดตามหนังสงคราม หรือ แอ็คชั่นมากนัก) เป็นหนังที่ค่อยข้างดูง่าย ย่อยง่าย ดูเพลิน ทั้งในส่วนของตัวละคร และฉากแอ็คชั่นที่ใส่เข้ามาได้อย่างพอดี รวมถึงยังมีมุขตลกที่จิกกัดให้ชมอยู่เสมอ จึงถือว่าเรื่องนี้เป็นอีกเรื่องนึงที่ชมแล้วไม่เสียดายค่าตั๋วแน่นอน
#TheMinistryofUngentlemanlyWarfare
#TODAYPLAY
![[ประมวลภาพ] เหนือคำบรรยายสมการรอคอย ใน “Omoinotake One Man Live in Taipei & Bangkok”](/_next/image?url=https%3A%2F%2Fimages.workpointtoday.com%2Fworkpointnews%2F2025%2F12%2F18194713%2F1766062032_006495-workpointtoday.webp&w=2048&q=75)
