อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเปรียบเสมือนลมหายใจของเศรษฐกิจไทย และทรัพยากรทางการท่องเที่ยวสามารถสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศ จะดีแค่ไหนหากการท่องเที่ยวไม่ใช่แค่การสร้างรายได้ แต่คือกำลังสำคัญของการฟื้นฟูโลกใบนี้
ในยุคที่โลกกำลังเปลี่ยนไป โรงแรมจึงไม่ใช่แค่ที่พักสำหรับนักเดินทาง แต่ยังสามารถเป็นส่วนหนึ่งของการดูแลโลกใบนี้ให้ยั่งยืนได้ ผู้ประกอบการโรงแรมหลายแห่งต่างตระหนักและให้ความสำคัญกับการปรับตัว เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจไปในทิศทางที่ไม่เพียงแค่สร้างความทรงจำดี ๆ ให้กับนักเดินทาง แต่ยังช่วยสร้างสรรค์สิ่งดี ๆ ให้กับธรรมชาติและชุมชนไปพร้อมกัน
นี่คือโอกาสดีที่ TODAY ได้พูดคุยกับผู้ประกอบการที่บริหารจัดการการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน นั่นคือ ‘โรงแรมเดอะ ริเวอร์รี บาย กะตะธานี คอลเล็คชั่น เชียงราย’ เจ้าของรางวัลเกียรติยศ (Hall of Fame) จากรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ครั้งที่ 15 (Thailand Tourism Awards) ประจำปี 2568 ซึ่งจัดโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ภายใต้แนวคิด ‘Sustainability in Process’ ส่งเสริมให้การท่องเที่ยวไทยพัฒนาอย่างมีคุณค่า ยั่งยืนและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล

‘นิภา ตะพันธ์’ ผู้จัดการโรงแรม เดอะ ริเวอร์รี บาย กะตะธานี คอลเล็คชั่น เชียงราย
เราได้พูดคุยกับ ‘นิภา แต่พันธ์’ ผู้จัดการโรงแรม เดอะ ริเวอร์รี บาย กะตะธานี คอลเล็คชั่น เชียงราย ทันทีที่เธอกลับจากการลงพื้นที่มอบเครื่องเล่นสำหรับเด็กของโรงแรมให้แก่โรงเรียนบนดอยเพื่อนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับเด็ก ๆ ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่โรงแรมเข้าร่วมกับชุมชนเสมอมา
เมื่อถามถึงแรงบันดาลใจในการเข้าร่วมการประกวดรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยปีนี้เธอเล่าว่า “แนวคิดด้านความยั่งยืนนี้เริ่มต้นจากโรงแรมแม่ที่ภูเก็ต ที่เน้นค้นหาคำตอบ ว่าการท่องเที่ยวจะยั่งยืนได้อย่างไร ซึ่งโครงการของ ททท. ตอบโจทย์นี้ได้เป็นอย่างดี เพราะธุรกิจโรงแรมไม่ใช่แค่การมีห้องพักไว้บริการนักท่องเที่ยว แต่ต้องครอบคลุมถึงการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ ทั้งการใช้ทรัพยากรให้คุ้มค่าที่สุด และการทำอย่างไรไม่ให้การท่องเที่ยวทำลายสิ่งแวดล้อม นี่คือเหตุผลที่เราตัดสินใจเข้าร่วมประกวดมาตลอดหลายปี”

[มากกว่าแค่ธุรกิจ แต่คือการสร้างคุณค่าที่ยั่งยืน]
‘นิภา’ บอกว่า การทำงานด้านความยั่งยืนของโรงแรมไม่ใช่แค่การทำตามกระแส แต่คือการลงมือทำอย่างจริงจังและต่อเนื่อง โดยยึดหลักการบริหารจัดการทรัพยากรให้คุ้มค่าที่สุด โรงแรมได้พัฒนาระบบการจัดการน้ำอย่างเป็นระบบโดยดึงน้ำจากแม่น้ำกกมาบำบัดให้สะอาดเพื่อใช้หมุนเวียนในโรงแรม และน้ำที่ใช้แล้วจะถูกนำไปกรองอีกครั้งเพื่อใช้รดน้ำต้นไม้ในสวน ทำให้มั่นใจได้ว่าไม่มีน้ำเสียถูกปล่อยลงสู่ธรรมชาติ นอกจากนี้ ยังมีการดูแลพื้นที่ริมแม่น้ำกกอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้แม่น้ำสวยงามและสะอาดอยู่เสมอ
ทางโรงแรมยังให้ความสำคัญกับพลังงานสะอาด โดยติดตั้งโซลาร์เซลล์เพื่อเป็นแหล่งพลังงานหลักสำหรับเครื่องทำน้ำอุ่นทั้งหมด และมีแผนจะขยายกำลังการผลิตเพื่อใช้ในส่วนอื่น ๆ ของโรงแรมต่อไป

“ด้านการจัดการขยะ โรงแรมได้แรงบันดาลใจจากโรงแรมแม่ที่ภูเก็ต จึงริเริ่มโครงการแยกขยะถึง 7 ประเภท ซึ่งครอบคลุมทั้งขยะพลาสติก, น้ำมันใช้แล้ว, และเศษอาหารที่ถูกนำไปมอบให้กับผู้เลี้ยงหมูในชุมชนโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย นอกจากนี้ พนักงานทุกคนยังหันมาใช้กระบอกน้ำส่วนตัวแทนแก้วพลาสติก เพื่อลดปริมาณขยะอย่างยั่งยืน รวมถึงยังมีแคมเปญกระตุ้นให้แขกมีส่วนร่วม โดยเสนอคูปองเครื่องดื่มฟรีให้กับผู้เข้าพักที่เลือกที่จะไม่เปลี่ยนผ้าปูที่นอนทุกวัน เป็นการช่วยประหยัดพลังงานและน้ำ ไปในตัว” ‘นิภา’ กล่าวเสริม
[วัฒนธรรมองค์กร ร่วมคิด ร่วมทำ]
โรงแรมได้สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เปิดโอกาสให้พนักงานทุกระดับมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นและเสนอไอเดียใหม่ๆ โดยเฉพาะจากทีมช่าง ซึ่งช่วยขับเคลื่อนนวัตกรรมและลดต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังได้จัดตั้งคณะกรรมการที่ดูแลด้านความยั่งยืนโดยเฉพาะ ซึ่งประกอบด้วย ประธานพลังงาน ประธานขยะ และประธานวัฒนธรรม มีการจัดตัวแทนพนักงานหมุนเวียนร่วมกิจกรรมชุมชน โมเดลนี้ไม่เพียงแต่ทำให้พนักงานเห็นคุณค่าของงานที่ทำ แต่ยังนำแนวคิดความยั่งยืนไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันและครอบครัวอีกด้วย
[พันธมิตรที่ยั่งยืน โรงแรมและชุมชนคือหนึ่งเดียวกัน]
การมีส่วนร่วมกับชุมชนเป็นอีกหนึ่งหัวใจสำคัญของโรงแรมเดอะ ริเวอร์รี ‘นิภา’ กล่าวว่า “เราคิดว่าความยั่งยืนนี้ไม่ได้เป็นแค่เรื่องของธุรกิจเท่านั้น แต่คือการสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับชุมชน” โรงแรมได้สร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับคนในท้องถิ่นผ่านหลายโครงการที่น่าสนใจ

-
- สนับสนุนเศรษฐกิจท้องถิ่น อนุญาตให้รถสามล้อเข้ามาให้บริการรับส่งลูกค้าภายในโรงแรม สร้างรายได้ให้ชุมชนภายใต้ข้อตกลงเรื่องราคาที่เป็นธรรม หรือในช่วงฤดูท่องเที่ยวมีการจัดซื้อผักและผลไม้จากเกษตรกรในพื้นที่โดยตรง เพื่อนำมาใช้ในห้องอาหารและบุฟเฟต์เช้า อีกทั้งยังซื้อผลิตภัณฑ์ของชุมชน เช่น ข้าวแต๋น มาจัดวางในโรงแรมเพื่อเป็นการสนับสนุนสินค้าท้องถิ่น

-
- เปิดพื้นที่ให้ศิลปิน โรงแรมจัดพื้นที่ให้ศิลปินท้องถิ่นมาแสดงงานศิลปะหมุนเวียนกันตลอดทั้งปีโดยไม่คิดค่าเช่า ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นการส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมของเชียงรายเท่านั้น แต่ยังเป็นการเปิดโอกาสให้ศิลปินได้แสดงผลงานและสร้างรายได้

-
- การศึกษาและสังคม โรงแรมเข้าไปมีส่วนร่วมกับโรงเรียนในชุมชนอย่างต่อเนื่อง เช่น การบริจาคข้าวสารและขนม หรือการจัดกิจกรรมสอนให้นักเรียนนำรองเท้าแตะเก่าของโรงแรมมาประดิษฐ์เป็นพรมเช็ดเท้า เพื่อปลูกฝังแนวคิดเรื่องการนำสิ่งของกลับมาใช้ใหม่ (Upcycle) ตั้งแต่ยังเด็ก
[อนาคตที่ยั่งยืน รางวัลแห่งความมุ่งมั่น]
การได้รับรางวัล Hall of Fame (รางวัลสำหรับผู้ประกอบการที่ได้รับรางวัลยอดเยี่ยมต่อเนื่อง 3 ครั้ง) จากเวทีอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ครั้งที่ 15 ประจำปี 2568 เป็นรางวัลที่การันตีได้ว่าโรงแรมไม่ได้ทำเรื่องความยั่งยืนแค่ชั่วคราว แต่ทำอย่างจริงจังและต่อเนื่องมาโดยตลอด

“พวกเรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับรางวัลอันทรงเกียรตินี้ถึง 3 ปีซ้อน ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเลย นี่คือความภาคภูมิใจของเครือกะตะธานี เพราะเราเชื่อเสมอว่าการทำธุรกิจที่ดีไม่ใช่แค่การทำกำไร แต่คือการสร้างความยั่งยืนให้กับชุมชนและสิ่งแวดล้อม รางวัลนี้เป็นเหมือนเครื่องยืนยันว่าเราได้ทำเพื่อส่งเสริมชื่อเสียงของจังหวัดเชียงรายอย่างแท้จริง ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพราะเชียงรายยังมีอนาคตที่สดใส และจะเติบโตขึ้นไปได้อีกมาก” ‘นิภา’ กล่าว

โรงแรม เดอะ ริเวอร์รี บาย กะตะธานี คอลเล็คชั่น เชียงราย คือตัวอย่างที่ชัดเจนของการบริหารจัดการการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน เพราะที่นี่ไม่ใช่เพียงแค่สถานที่พักผ่อนที่สวยงาม แต่คือธุรกิจที่ขับเคลื่อนด้วยหัวใจและพันธกิจเพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับโลก ด้วยบรรยากาศที่เงียบสงบริมแม่น้ำกก สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และการบริการที่ใส่ใจทุกรายละเอียด ที่นี่จึงมอบประสบการณ์ที่มากกว่าแค่ความสะดวกสบาย แต่คือความรู้สึกดี ๆ ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นของโลกใบนี้










