(แฟ้มภาพ) พระพุทธอิสระ – 14 แนวร่วม กปปส. ข้อหากบฏ
ประเด็นคือ – ‘สุเทพ’ นำทีม กปปส. ไปศาลอาญานัดตรวจพยานหลักฐานคดีก่อการร้าย 56 ยันให้การปฏิเสธ พร้อมขอศาลพิจารณาเป็นรายคดีปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
วันที่ 19 มี.ค.2561 เวลา 08.45 น. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย (มปท), นายถาวร เสนเนียม, นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย, นางอัญชะลี ไพรีรัก และแนวร่วม กปปส. จำนวนหนึ่งที่ตกเป็นจำเลยคดีร่วมกันกบฏ, สนับสนุนกบฏ, ขัดขวางการเลือกตั้งฯ และข้อหาอื่นรวม 8-9 ข้อหา พร้อมด้วยทนายความ เดินทางไปศาลอาญา เพื่อตรวจหลักฐานคดีที่อัยการยื่นฟ้องไว้ 2 สำนวน คือหมายเลขดำ อ.247/2561 ที่อัยการสำนักงานคดีพิเศษ 4 ยื่นฟ้องนายสุเทพ และแกนนำ กปปส. รวม 9 คน, คดีหมายเลขดำคดีหมายเลขดำ อ.832/2561 ที่อัยการยื่นฟ้องนางอัญชะลี ไพรีรัก, พระพุทธอิสระ และแนวร่วม กปปส. รวม 14 คน
(แฟ้มภาพ) พระพุทธอิสระ – 14 แนวร่วม กปปส. ข้อหากบฏ
นายสุเทพ ยืนยัน ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา พร้อมระบุว่า ที่ได้ร่วมกันชุมนุมในปี 2556 ไม่ได้คิดร้ายกับใคร และเป็นการทำเพื่อประเทศชาติ แต่ในวันนี้จะยื่นขอความเป็นธรรมกับศาลให้อัยการถอนฟ้อง และแยกสำนวนฟ้องเฉพาะแกนนำหลัก 9 คน ตามข้อหาร่วมกันเป็นกบฏ และก่อการร้ายไปก่อน ส่วนจำเลยที่เหลือขอให้ฟ้องตามความผิดที่ได้กระทำไป แต่ขณะนี้อัยการสั่งฟ้องเกือบทุกคนในข้อหาร่วมกันเป็นกบฏ และร่วมกันก่อการร้าย ทั้งที่พฤติกรรมที่กระทำไม่เข้าข่าย
“วันนี้ก็จะยื่นคำร้องขอต่อศาลว่า อย่าได้นำคดีทั้ง 2 สำนวน หรือเอาจำเลยทั้ง 23 คนมารวมพิจารณาเป็นคดีเดียวกันเลย เพราะจะไม่เป็นประโยชน์ต่อกระบวนการยุติธรรม จะไมเป็นประโยชน์ในการพิจารณาคดี ไม่เป็นความสะดวกทั้งสิ้น เราจะร้องขอต่อศาลให้แยกพิจารณาเป็นคดีๆ ไป แต่หากสุดท้ายศาลมีคำสั่งว่าเพื่อความสะดวกให้รวมพิจารณาเป็นคดีเดียวกันหรือมีคำสั่งใด เราก็ต้องยอมรับเช่นนั้น” นายสุเทพ กล่าว
แฟ้มภาพ
สำหรับคดีนี้ มีจำเลยที่อัยการสั่งฟ้องคดีแล้วประมาณ 50 คน สั่งฟ้องไปแล้ว 23 คน ส่วนอีก 27 คน อยู่ระหว่างขอเลื่อนสั่งฟ้องคดี และมีบางส่วนที่พนักงานสอบสวนยังทำสำนวนไม่แล้วเสร็จจึงยังไม่ส่งมาให้อัยการพิจารณา
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : อัยการนัด 53 แกนนำกปปส. ฟังคำสั่งคดี ‘ข้อหากบฏ’ 24 ม.ค. 61
