‘ทุนเทา’ ถึงตัวผู้นำไทย ภาพหลุด ‘เบน สมิธ’ ร่วมเฟรม 2 นายกฯ รัฐมนตรี-ผู้นำทหาร-ตำรวจระดับสูง

‘ทุนเทา’ ถึงตัวผู้นำไทย ภาพหลุด ‘เบน สมิธ’ ร่วมเฟรม 2 นายกฯ รัฐมนตรี-ผู้นำทหาร-ตำรวจระดับสูง

ภาพหลุดที่ถูกแชร์มากที่สุดในสังคมไทยตอนนี้ กำลังกลายเป็นคำถามสำคัญว่า ‘ทุนเทา’ กำลังยึดกุมประเทศไทยอย่างเบ็ดเสร็จ ผ่านความสัมพันธ์ที่ไปถึงชนชั้นนำในการเมืองไทยทุกองคาพยพแล้วหรือไม่

นี่คือความกังวลหลังปรากฎภาพ ‘เบน สมิธ’ ร่วมเฟรมกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ซึ่งในภาพยังมีอดีตผู้บัญชาการทหารบก อดีตจเรตำรวจแห่งชาติ และอดีตสมาชิกวุฒิสภาคนดัง ที่เคยถูกเรียกขานว่า “สว.ทรงเอ”

ส่วนอีกภาพ ก็ปรากฎคนการเมืองระดับรมว.คลัง ร่วมเฟรมกับนายเบน สมิธ ในจังหวะเวลาที่นายเบน สมิธ เพิ่งถูกยึดอายัดทรัพย์หลักหมื่นล้าน เชื่อมโยงกับเครือข่ายสแกมเมอร์

[ต้นเรื่องเบน สมิธ นักข่าวดังแฉสัมพันธ์กับ ‘ทักษิณ’]

ถ้าให้ย้อนกลับไป ชื่อของเบน สมิธ ถูกเชื่อมโยงถึงการเมืองไทยระดับผู้นำประเทศครั้งแรก จากการเผยแพร่ภาพของ Tom Wright นักเขียนชื่อดัง ผู้ที่เคยเปิดโปงโครงการทุจริต 1MDB ของรัฐบาลมาเลเซีย

เขาเปิดเผยภาพที่เห็นนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย นั่งรับประทานอาหารกับชาย 2 คน

หนึ่งในนั้นคือนายเบน สมิธ ส่วนอีกคนหนึ่งที่นั่งหันหลังให้ภาพ ถูกระบุว่าเป็น ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในรัฐบาลชุดปัจจุบัน

Tom Wright ระบุในบทความที่ออกมาเปิดโปงเรื่องนี้ว่า นี่เป็นเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา พร้อมชี้ว่า นายเบน สมิธ หรือนายเบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ เป็นชาวแอฟริกาใต้ เป็นอาชญากรหนีคดี และเป็นนายหน้าที่เชื่อมโยงกับสมเด็จฮุน เซน อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา

บทความของ Tom Wright ยังฉายภาพให้คนทั่วไปได้เห็นถึงความเชื่อมโยงระหว่างนายเบน สมิธ และนายยิม เลียก ซึ่งเมื่อวานนี้ (3 ธ.ค.) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพิ่งแถลงข่าวยืนยันว่า ได้มีการยึดและอายัดทรัพย์สินเครือข่ายยิม เลียก-เบน สมิธ มูลค่า 10,157 ล้านบาท

หลังปรากฎภาพร่วมเฟรมนายเบน สมิธ มีท่าทีจากนายจักรภพ เพ็ญเเข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 18 ต.ค. เปิดเผยว่า สมเด็จฮุน เซน อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา เป็นคนแนะนำนายเบน สมิธ ให้นายทักษิณรู้จัก ในช่วงที่นายทักษิณ และสมเด็จฮุน เซนยังมีความสัมพันธ์ที่ดีกันอยู่

นายจักรภพระบุว่า ตอนนั้นนายทักษิณตั้งใจที่จะส่งเสริมการทำงานด้านการลงทุนธุรกิจระหว่างประเทศไทย และประเทศกัมพูชา สมเด็จฮุน เซน จึงแนะนำนายเบน สมิธ ให้เป็นคนประสานงานระหว่างสองประเทศ

ขณะที่สำนักข่าวอิศรา เผยแพร่บทสัมภาษณ์ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เมื่อวันที่ 3 ต.ค. ยอมรับว่า ไปนั่งรับประทานอาหารร่วมกับอดีตนายกฯ ทักษิณ และนายเบน สมิธ จริง โดยในครั้งนั้นมีศาสตราจารย์ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการคนปัจจุบัน ร่วมรับฟังด้วย

ร.อ.ธรรมนัส ยอมรับว่า รู้จักกับนายเบน สมิธ เพราะนายทักษิณ ชินวัตร โดยรู้จักกันที่ดูไบ ขณะไปเยี่ยมนายทักษิณหลังการรัฐประหาร

“ผมก็เห็นเขาทําธุรกิจกับท่านทักษิณ ซึ่งก็ไม่เห็นจะมีอะไรผิดเลยสำหรับนักธุรกิจ แล้วเรารู้จักเขา เขาก็เป็นน้องคนหนึ่งที่เป็นชาวต่างชาติ ไม่มีเรื่องอื่นสลับซับซ้อนเลย มีอยู่แค่เนี้ย” ร.อ.ธรรมนัส ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวอิศรา

โดยนอกจากภาพร่วมโต๊ะรับประทานอาหารแล้ว ยังมีภาพและข้อมูลที่ชี้ว่า นายเบน สมิธ ร่วมงานบุญกับ ร.อ.ธรรมนัส และ ศ.นฤมล หลายครั้ง

ข่าวอื้อฉาวของนายเบน สมิธ ถูกพูดถึงกว้างขวางขึ้น จากการออกมาเปิดเผยในการอภิปรายของนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ตั้งคำถามเชื่อมโยงถึงความสัมพันธ์ระหว่าง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า กับนายเบน สมิธ

ร.อ.ธรรมนัส ตัดสินใจฟ้อง สส.รังสิมันต์ โรม ท่ามกลางข้อกังขาว่า นี่เป็นการฟ้องปิดปากหรือไม่

“สรุปท่านรองนายกอยากให้ผมหุบปาก เลิกแฉการฮุบประเทศไทยจากสแกมเมอร์ที่มีฐานที่กัมพูชาใช่มั้ย ท่านธรรมนัส ท่านเป็นรองนายกควรปกป้องคนออกมารักษาผลประโยชน์ของชาติ ไม่ใช่พยายามปิดปากเขา ผมแนะนำให้ท่านธรรมนัส เอาข้อมูลเกี่ยวกับเบน สมิธ ไปให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดีกว่า จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติด้วย” รังสิมันต์ โพสต์เมื่อวันที่ 2 ต.ค.

[ภาพหลุด ‘เบน สมิธ’ สัมพันธ์หยั่งรากการเมือง-ทหาร-ตำรวจ?]

ความเชื่อมโยงระหว่างเบน สมิธ กับกลุ่มการเมือง-ชนชั้นนำในไทยไปไกลกว่านั้น เมื่อมีการเปิดเผยภาพเพิ่มเติมเมื่อวานนี้ (3 ธ.ค.) ปรากฎภาพคนการเมือง ร่วมเฟรมกับนายเบน สมิธ

บุคคลการเมืองที่สำคัญ ได้แก่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี นายอุปกิต ปาจรียางกูร อดีตสมาชิกวุฒิสภา พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ อดีตจเรตำรวจแห่งชาติ และ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ อดีตผู้บัญชาการทหารบก

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีภาพหลุดร่วมเฟรมกับนายเบน สมิธ ว่า รู้จักแต่ไม่สนิท พร้อมกับย้อนถามว่าปีนั้นปีอะไร นั่นแหละแค่เจอครั้งแรก

นายกฯ อนุทิน ย้อนว่า ”จำไม่ได้หรือว่าทำไมเขาถึงไม่ได้สัญชาติ“ เพื่อพยายามย้อนให้เห็นว่า เขาในฐานะรัฐมนตรีมหาดไทย เป็นคนไม่ให้สัญชาติเบน สมิธเอง และชี้ว่า นี่อาจจะเป็นหนึ่งในข้อหาที่หนึ่งในข้อหาที่โดนออกจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในรัฐบาลที่แล้วหรือไม่

ขณะที่ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ อดีตผู้บัญชาการทหารบก เปิดเผยผ่านข้อความที่ส่งถึงนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ผู้ประกาศชื่อดังทางไลน์ส่วนตัว ระบุว่า

“ผมได้เห็นภาพและขอชี้แจงตามนี้ว่า ภาพแรกเป็นภาพปี 2557 ขณะเรียนหลักสูตร วปอ.และเดินทางไปดูงานที่สิงคโปร์ มีเพื่อนแนะนําให้รู้จักนายเบน สมิธ เป็นนักธุรกิจและมารับประทานอาหาร ซึ่งยังจําได้ว่านายอนุทิน ชาญวีรกูล พูดในตอนนั้นว่า อเมริกันแชร์ คือทุกคนจ่ายค่าอาหารทุกคน ไม่มีใครเลี้ยง”

นอกจากนี้ยังมีภาพอีกชุด ซึ่งน่าจะเป็นคนละเหตุการณ์ นายเบน สมิธ ร่วมเฟรมกับนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังด้วย

นายเอกนิติ ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวอิศรา เปิดเผยว่า ภาพดังกล่าวเป็นภาพถ่ายตอนไปเป็นอาจารย์ในหลักสูตรผู้บริหารระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเมื่อประมาณ 5 ปีที่แล้ว ก่อนช่วงระบาดของโควิด ซึ่งภายในงานได้เจอกับคนจำนวนมาก และนายเบน สมิธได้เข้ามาพูดคุย แลกนามบัตร หลังจากนั้นก็ไม่ได้มีการคบหาสมาคมกันอีก

ในการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวอิศรา รองนายกฯ และ รมว.คลังยืนยันว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกฎหมายของกลุ่มบุคคลที่อยู่ระหว่างการดำเนินคดี และสนับสนุนให้มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดกับผู้ที่กระทำผิดกฎหมาย

การเปิดเผยของรมว.คลัง นอกจากคำถามถึงความสัมพันธ์ที่ต้องพิสูจน์กันต่อไปแล้ว ยังเป็นการชี้เป้าไปยังความสัมพันธ์ระหว่างเบน สมิธ กับองค์กรตำรวจ ที่เกิดเป็นข้อกังขาว่า เบน สมิธ เข้าร่วมงานเลี้ยงหลักสูตรระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้อย่างไรด้วย

[แค่ถ่ายร่วมเฟรม รู้จักแต่ไม่สนิท หรือมีสัมพันธ์ลึกซึ้ง?]

ภาพที่ถูกเปิดเผยออกมาทำให้เกิดคำถามว่า นายเบน สมิธ ซึ่งถูกกล่าวหาว่ามีส่วนในการกระทำผิดเชื่อมโยงกับขบวนการสแกมเมอร์ จนถูกยึดอายัดทรัพย์แล้ว เข้าถึงระดับชนชั้นนำไทยมากขนาดนี้ได้อย่างไร

ที่สำคัญ นายเบน สมิธ มีสัมพันธ์กับบุคคลระดับผู้นำการเมืองไทยมากขนาดไหนกันแน่?

รังสิมันต์ โรม สส.พรรคประชาชน ที่เกาะติดประเด็นนี้ตั้งแต่ต้น ตั้งคำถามถึงชุดภาพล่าสุดที่ปล่อยออกมา 4 ข้อว่า

1. นี่หรือเปล่าที่ทำให้คนอย่างเบน สมิธ จึงไม่มีใครกล้าแตะต้อง จนถึงวันนี้จึงยังไม่มีการออกหมายจับ สรุปจะช่วยกันใช่มั้ย คงไม่ต้องพูดถึงการออกหมายแดงของ Interpol เพื่อตามล่าตัวจากต่างประเทศ คงไม่มีวันเกิดขึ้นหรือเปล่า

2. การยึดอายัดทรัพย์เป็นแค่เพียงการลดกระแสสังคมใช่หรือไม่ เดี๋ยวก็ปล่อยทรัพย์คืนพวกแก๊งสแกมเมอร์ไป สรุปรัฐบาลไม่เอาจริง? เช่นนี้แล้ว เหยื่อสแกมเมอร์เมื่อไหร่จะได้เงินคืน

3. เพราะมีบางคนมีภาพพวกนี้อยู่ รอ.ธรรมนัส จึงยังคงทำหน้าที่เป็นรองนายกต่อไปได้ เพราะคงกุมความลับไว้มาก ท่านอนุทินจึงไม่กล้าปลดคุณธรรมนัส แม้ว่าจะมีความเชื่อมโยงกับนายเบน สมิธ ก็ตาม

4. ไม่น่าเชื่อว่าแก๊งสแกมเมอร์จะยิ่งใหญ่บนผืนแผ่นดินไทยได้ขนาดนี้ มีเครือข่ายกว้างขวางอย่างไม่น่าเชื่อ เจ้าหน้ารัฐจะกล้าปราบทุนเทายึดประเทศหรือไม่

TODAYWriterTODAY

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง
‘ทุนเทา’ ถึงตัวผู้นำไทย ภาพหลุด ‘เบน สมิธ’ ร่วมเฟรม 2 นายกฯ รัฐมนตรี-ผู้นำทหาร-ตำรวจระดับสูง