“วิษณุ” ชี้แจงไทม์ไลน์การเมือง คาดมี “ครม.ใหม่” เดือนมิถุนายน

รองนายกฯ “วิษณุ เครืองาม” ชี้แจงไทม์ไลน์การเมือง กรณี กกต.จะประกาศรับรอง ส.ส.เร็วขึ้นต้องยึดวันที่ 8 พ.ค. เป็นหลัก คาด “มิถุนายน” ที่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงคือได้ คณะรัฐมนตรีใหม่

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เตรียมประกาศรับรองผล ส.ส.แบบแบ่งเขต ในวันที่ 7 พ.ค. และ ประกาศรับรองผล ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ (ปาร์ตี้ลิสต์) ในวันที่ 8 พ.ค. ว่า ไม่ทราบว่าจะเป็นไปได้หรือไม่ แต่การประกาศผลอย่างเป็นทางการ ต้องยึดวันพุธ ที่ 8 พ.ค. เป็นหลัก เพราะครบร้อยละ 95 ซึ่งจะมีผลต่อการนับวันทูลเกล้าฯ รายชื่อ ส.ว. ที่ต้องทำภายใน 3 วัน และวันเปิดประชุมรัฐสภา ภายใน 15 วัน

ด่านแรกที่ต้องทำภายหลังจากมีรัฐพิธีเปิดประชุมรัฐสภา จะต้องมีการเปิดประชุมเพื่อเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร, รองประธานสภาผู้แทนราษฎร และประธานวุฒิสภา, รองประธานวุฒิสภา ซึ่งตนเคยเสนอว่า ควรจะมีการประชุมในวันเดียวกัน คือเช้าและบ่าย เนื่องจากสถานที่ประชุมรัฐสภาชั่วคราวไม่พร้อมจะได้ไม่ต้องแยกกันเช่าสถานที่ เสร็จแล้วเมื่อโปรดเกล้าฯ ลงมา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นประธานรัฐสภาจะเป็นผู้เรียกประชุม เพื่อเลือกนายกรัฐมนตรี

เมื่อถามว่า เห็นทางพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ระบุว่าจะได้รัฐบาลใหม่เดือนมิถุนายน นายวิษณุ กล่าวว่า ท่านหมายความถึงการมีคณะรัฐมนตรีทั้งคณะ ตนตอบไม่ได้อย่างนั้น

“เท่าที่วิเคราะห์กันก็คือว่า เมื่อเสด็จฯเปิดสภาแล้วหลังจากนั้นก็เลือกประธาน เลือกประธานแล้วโปรดเกล้าฯ เมื่อโปรดเกล้าฯแล้ว ประธานก็คงจะและควรจะเรียกประชุมเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีโดยเร็ว ต่อจากนั้นนายกรัฐมนตรีก็ต้องไปพิจารณาพรรคที่จะมาร่วมรัฐบาล และตั้งรัฐมนตรี ซึ่งก็คงจะล้ำเข้าไปมิถุนายนแล้วตอนนั้น กว่าที่จะตั้งรัฐมนตรีเสร็จก็จะต้องทูลเกล้าฯ ถวายขึ้นไปให้ทรงแต่งตั้ง แต่งตั้งเสร็จก็ยังทำอะไรไม่ได้ ก็จะต้องทูลเกล้าขอพระราชทานนำคณะรัฐมนตรีใหม่เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ พอปฏิญาณเสร็จ ครม. คสช.ก็จะสิ้นสุดลงในวันนั้น แต่รัฐบาลใหม่ก็ยังทำอะไรได้ไม่มากนัก เพราะว่ายังไม่ได้แถลงนโยบาย ต้องแถลงนโยบายภายใน 15 วัน ถ้านโยบายพร้อมก็แถลงเร็ว ถ้าไม่พร้อมก็แถลงช้า ช้ายังไงก็เกิน15วันไม่ได้ ไทม์ไลน์เป็นอย่างนี้ ส่วนวันผมไม่รู้ ให้พูดคือเดา เพราะหลายเรื่องเป็นเรื่องต้องกราบบังคมทูล”