วันที่ 24 เม.ย. สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญเผยแพร่จดหมายข่าว ผลการพิจารณาคำร้องกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 210 วรรคหนึ่ง (1) และ (2) โดยมีมติเป็นเอกฉันท์เห็นว่า ผู้ร้องจึงไม่อาจยื่นคำร้องโดยตรงในประเด็นนี้
ส่วนคำร้องที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ผู้ร้องจะคำนวณหาจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ ตาม พ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 128 ได้หรือไม่ และการดำเนินการดังกล่าวชอบด้วยรัฐธรรมนูญ มาตรา 91 หรือไม่ ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมาก 7 ต่อ 2 ว่า กรณีดังกล่าว เป็นหน้าที่และอำนาจของผู้ร้องตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 91 และ พ.ร.ป.ส.ส. มาตรา 128 ซึ่งต้องกระทำหลังจากมีการประกาศผลการเลือกตั้งแบบแบ่งเขตแล้ว และข้อเท็จจริงยังไม่ปรากฏว่าผู้ร้องได้ใช้หน้าที่และอำนาจตามที่รัฐธรรมนูญและกฎหมายบัญญัติ กรณีจึงถือว่ายังไม่ได้ว่ามีปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของผู้ร้องเกิดขึ้นแล้ว คำร้องจึงไม่ต้องด้วยหลักเกณฑ์ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะรับไว้พิจารณาวินิจฉัยได้
ทั้งนี้ ในการประชุม กกต. เมื่อวันที่ 11 เม.ย. กกต. ระบุว่าเมื่อคำนวณจำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อ ตามแนวทางที่สำนักงาน กกต.ตั้งเสนอ ซึ่งเป็นวิธีการคำนวณตามแนวทางของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญจะทำให้ พรรคการเมืองที่มีผลการคำนวณจำนวน ส.ส.จะพึงมีได้ต่ำกว่าหนึ่งคน สามารถได้รับการจัดสรรสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อด้วย
ซึ่ง กกต.พิจารณาว่าแม้แนวทางดังกล่าวจะทำให้ได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อครบ 150 คน แต่พบว่าอาจขัดหรือแย้งกับบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 91 (2) และ (4) แต่หากไม่นำจำนวน ส.ส.ที่พึงจะมีได้ที่ต่ำกว่าหนึ่งคนไปคิดคำนวณก็จะไม่สามารถจัดสรร ส.ส.ได้ครบ 150 คน จึงมีมติขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยชี้ขาด
โดยเมื่อศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้องไว้พิจารณา เท่ากับว่า กกต.ต้องตัดสินใจเลือกใช้สูตรการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อเอง และหากประกาศผลแล้วมีการโต้แย้งคาดว่าจะมีการนำเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยอีกครั้ง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
