
“จตุพร” ประกาศวางมือจากพรรคเพื่อชาติ เผยภารกิจเสร็จแล้วขอทำหน้าที่ประธาน นปช.อย่างเดียว ไม่หวั่นคดีถูกยื่นยุบเพราะครอบงำพรรคเพราะกฎหมายรับรองไว้ แนะใครอยากเป็นรัฐบาลจนใช้วิธีซื้อตัว ส.ส.วันรับตำแหน่งคือ เริ่มต้นสู่จุดจบ
วันที่ 30 มี.ค. นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) แถลงข่าวยุติบทบาทการเป็นผู้ช่วยหาเสียงของพรรคเพื่อชาติ โดยกล่าวว่า ได้แจ้งหัวหน้าพรรคให้ทราบแล้วตั้งแต่ 26 มี.ค. เพราะภารกิจของตนที่ประกาศไว้คือการรวบรวมเสียงฝั่งประชาธิปไตยให้ไปรวมกันในวันเลือกตั้งเมื่อพรรคเพื่อชาติแถลงจุดยืนอยู่ฝั่งประชาธิปไตย จึงถือว่าภารกิจตนเสร็จสิ้น ต่อไปนี้ตนจึงเหลือสถานะเดียวคือ ประธาน นปช.

นายจตุพร กล่าวต่ออีกว่า การจัดตั้งรัฐบาล เมื่อประชาชนตัดสินมาด้วยเสียงก้ำกึ่งแบบนี้ หากมีพรรคไปซื้อ ส.ส.จากพรรคอื่นแล้วได้เป็นนายกรัฐมนตรี วันที่รับตำแหน่งจะเป็นวันสุดท้ายเช่นเดียวกัน เพราะถ้าเลือกการสร้างงูเห่าให้เกิดขึ้นก็จะนำไปสู่จุดจบ เพราะเป็นการสร้างวิกฤตศรัทธาอย่างรุนแรง ซึ่งผู้ที่ตนมองว่าต้องรับผิดชอบคือ กกต.เพราะวิญญูชนอย่างพวกท่านย่อมรู้ว่าอะไรเกิดขึ้นมาแล้ว โดยที่ตนจะไม่เรียกร้องให้ลาออก ผู้ที่ต้องรับผิดชอบต่อมาคือคณะกรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.)เพราะเขียนรัฐธรรมนูญให้ประเทศไทยเดินสู่ทางตัน

ประธาน นปช. ยังกล่าวถึงการที่ ร้อยเอกทรงกลด ชื่นชูผล หรือผู้กองปูเค็ม ไปยื่นยุบพรรคเพื่อชาติ โดยกล่าวหาว่า นายจตุพร ซึ่งเป็นคนนอกครอบงำพรรคว่า ถือเป็นหน้าที่ของกรรมการบริหารพรรคเพื่อชาติและฝ่ายกฎหมายที่ต้องไปชี้แจงต่อ กกต. อย่างไรก็ตาม ประเด็นนี้ไม่น่าหนักใจ เพราะตำแหน่งผู้ช่วยหาเสียงของตนนั้นได้รับรองจาก กกต. ดังนั้นการขึ้นเวทีปราศรัยจึงกระทำได้ ในลักษณะที่ต้องได้รับค่าจ้าง ซึ่งถ้าตนได้รับค่าจ้างดังกล่าวก็จะนำไปบริจาคให้กับมูลนิธิคนปัญญาอ่อน ซึ่งถือเป็นความตั้งใจของตน
นอกจากนี้ ประธาน นปช. ยังวิจารณ์การจัดการเลือกตั้งของ กกต. ว่าอาจจะเกิดข้อครหาเหมือนการเลือกตั้งเมื่อปี 2500









