จับตา! ศาล รธน.วินิจฉัยยุบ “ไทยรักษาชาติ” อ.ปริญญา แนะหากยุบควรเยียวยาผู้สมัคร ส.ส.

จับตา! ศาล รธน.วินิจฉัยยุบ “ไทยรักษาชาติ” อ.ปริญญา แนะหากยุบควรเยียวยาผู้สมัคร ส.ส.

ศาลรัฐธรรมนูญ จะวินิจฉัยคำร้อง กกต.กรณีขอให้สั่งยุบพรรคไทยรักษาชาติ เพราะการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีในบัญชีของพรรค อาจเข้าข่ายกระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครอง โดยนัดฟังคำวินิจฉัยกลางเวลา 15.00 น. วันนี้ ด้านรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งเตรียมกำลังตำรวจ 8 กองร้อย ดูแลบริเวณศาลรัฐธรรมนูญ กรณีนัดตัดสินคดียุบพรรคไทยรักษาชาติ วันนี้  โดยมั่นใจดูแลความสงบได้  

วันนี้ (7 มี.ค.62) ศาลรัฐธรรมนูญ นัดประชุมพิจารณา-ปรึกษาหารือ พร้อมแถลงด้วยวาจาและการลงมติ คำร้องของ กกต. กรณีขอให้สั่งยุบพรรคไทยรักษาชาติ ด้วยเหตุเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีในบัญชีของพรรค อาจเข้าข่ายกระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครอง โดยนัดฟังคำวินิจฉัยกลาง เวลา 15.00 น.

สำหรับแนวทางคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญนั้น ก็มีการคาดการณ์กันมาอย่างต่อเนื่อง นายปริญญา เทวานฤมิตกุล รองอธิการบดีฝ่ายความยั่งยืน และบริหารศูนย์รังสิต  มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ให้ความเห็นว่า ตามบทบัญญัติในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง หากมีการยุบพรรค “ไทยรักษาชาติ” ก็จะส่งผลใน 3 แนวทาง คือ

  1. กรรมการบริหารพรรค 14 คน ถูกตัดสิทธิทางการเมือง 10 ปี และภายใน 10 ปีนี้ ห้ามกลับมาตั้งพรรคการเมืองหรือเป็นกรรมการบริหารพรรคอีก
  2. กรรมการบริหารพรรคทั้ง 14 คน ถูกตัด “สิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดชีวิต”
  3. ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคไทยรักษาชาติ ในระบบเขตเลือกตั้ง 174 คน และบัญชีรายชื่ออีก 108 คน หมดสิทธิ์ลงสมัครรับเลือกตั้ง (เพราะไม่สามารถย้ายพรรค ไปเป็นสมาชิกพรรคใหม่ได้ครบ 90 วันก่อนถึงวันเลือกตั้ง) และห้ามนำชื่อพรรค ชื่อย่อ หรือ ภาพเครื่องหมายที่ซ้ำ หรือพ้องกับพรรคไทยรักษาชาติ กลับมาใช้อีก

นายปริญญา เทวานฤมิตกุล รองอธิการบดีฝ่ายความยั่งยืน และบริหารศูนย์รังสิต  มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ซึ่งนายปริญญาเสนอว่า ผู้สมัคร ส.ส.ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจส่งบัญชีรายชื่อนายกรัฐมนตรีของพรรคไทยรักษาชาติ แต่ได้รับผลกระทบ ทำให้ไม่สามารถลงสมัครรับเลือกตั้งได้  จึงควรมีมาตรการเยียวยา

ดังนั้น หากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ชี้ออกมาว่า ต้องยุบพรรคไทยรักษาชาติ นายปริญญา เชื่อว่าก็จะไม่ส่งผลกระทบในเรื่องผลเลือกตั้งมากนัก เพราะเชื่อว่าจะมีการถ่ายโอนคะแนนของพรรคไทยรักษาชาติ ไปยังพรรคการเมืองในกลุ่มเดียวกัน คือกลุ่มตรงข้ามกับรัฐบาล คสช. เช่น พรรคเพื่อไทย พรรคเพื่อชาติ

สำหรับคดีนี้ ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ รับคำร้องไว้พิจารณาตั้งแต่เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และให้ กกต.และพรรคไทยรักษาชาติ ยื่นคำชี้แจง ภายใน 7 วัน

พรรคไทยรักษาชาติ ได้ยื่นคำชี้ต่อศาลฯ วันที่ 20 กุมภาพันธ์ โดยมี 3 ประเด็นหลัก 8 ข้อย่อย  มีสาระสำคัญ

  1. การยืนยันในเจตนาบริสุทธิ์ และย้ำว่ามีคำยินยอมจากบุคคลที่ถูกเสนอชื่อ ให้เสนอชื่อได้
  2. ปฏิเสธข้อกล่าวหาการเป็นปฏิปักษ์ต่อระบอบการปกครอง โดยย้ำว่า เป็นเจตจำนง และเป็นประสงค์ของผู้ได้รับการเสนอชื่อ ไม่ใช่การดำเนินการโดยพลกาล และ
  3. โต้แย้งว่าการส่งคำร้องของ กกต.ไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ไม่มีการไต่สวนข้อเท็จจริง หรือเปิดโอกาสให้ได้ชี้แจงก่อน

ซึ่งภายหลังได้รับคำชี้แจง ศาลรัฐธรรมนูญได้มีการนัดพิจารณาคดี ในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ก่อนจะมีมติว่า คดีนี้เป็นปัญหาข้อกฎหมาย มีพยานหลักฐานเพียงพอ ที่จะพิจารณาวินิจฉัยได้ โดยไม่ต้องทำการไต่สวนเพิ่มเติม และนัดลงมติ ในเวลา 13.30 น.และแถลงผลคำวินิจฉัยในเวลา 15.00 น.วันนี้

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง:

 

 

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง