
ตำรวจนำตัววัยรุ่นผู้ก่อเหตุแทงหนุ่มวัย 22 ปี เสียชีวิตบริเวณถนนนิมมานเหมินทร์ จ.เชียงใหม่ มาทำแผน แม่ผู้เสียชีวิตร้องไห้ตะโกนถาม ฆ่าลูกฉันทำไม
เมื่อวันที่ 21 ต.ค. เวลา 02.30 ที่บริเวณถนนนิมมานเหมินทร์ อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ เกิดเหตุวัยรุ่น 2 กลุ่ม ขี่รถจักรยานยนต์ไล่ติดตามกันมา และได้มาจอดบริเวณริมฟุตบาทเยื้องซอย 5 ถนนนิมมานเหมินทร์ หลังจากนั้นได้มีเรื่องชกต่อยกัน แต่อีกกลุ่มสู้ไม่ได้จึงนำอาวุธมีดที่อยู่ใต้เบาะรถออกมาแทงคู่กรณี คือนายวรภัทร์ ครุฑธะกะ อายุ 22 ปี จนคู่กรณีวิ่งหนีเอาตัวรอด แต่กลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุยังวิ่งไล่ติดตามมาแทงซ้ำจนเสียชีวิต ก่อนหลบหนีไป โดยมีกล้อวงจรปิดในบริเวณดังกล่าวสามารถจับภาพเหตุการณ์ได้
https://youtube.com/watch?v=OqLQklu2LXs
ต่อมาชุดสืบสวน ภวจ.เชียงใหม่และชุดสืบสวน สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ สามารถแกะรอยผู้ต้องหาจากกล้องวงจรปิดกระทั่งจับกุมตัวผู้ก่อเหตุ ได้ 2 คน คือนายเอกลักษณ์ บุญภัสสร อายุ 30 ปี ซึ่งสามารถจับกุมได้ที่ร้านนิคแทตทู (นายเอกลักษณ์เป็นเจ้าของร้านนี้) และนายธีระกุล หรืออาร์ท บุญช้างเผือก อายุ 18 ปี

ล่าสุดเช้าวันนี้ (22 ต.ค.) ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุ โดยแม่ของนายวรภัทร์ ครุฑธะกะ ผู้เสียชีวิต ได้เดินทางมาดูหน้าผู้ต้องหา 2 คนขณะทำแผน พร้อมกับร่ำไห้ด้วยความเสียใจและถามผู้ต้องหาว่าฆ่าลูกเธอทำไม ตำรวจจึงได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คน มากราบขอขมาพ่อของนายวรภัทร์ ผู้เสียชีวิต ซึ่งพ่อของผู้เสียชีวิตได้ถามผู้ต้องหาว่า มีพ่อมีแม่หรือไม่หากมีพ่อมีแม่จะเข้าใจ ขอให้ปรับนิสัยเสียใหม่หากเป็นลูกผู้ชาย
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ บริเวณจุดที่ผู้ต้องการขี่รถจักรยานยนต์ไล่ติดตามกันจนมาจอดรถและชกต่อย กระทั่งผู้ต้องหาใช้อาวุธมีแทงนายวรภัทร์เสียชีวิต ส่วนอีกจุดบริเวณหน้าปากซอยทางเข้าโครงการประเสริฐแลนด์ ซึ่งเป็นจุดที่ทั้งสองฝ่ายขี่รถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนกันจนล้ม ทำให้มีเรื่องทะเลาะวิวาทกัน

พ.ต.อ.พิเชษฐ จีระนันตะสิน รักษาการ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่
ด้าน พ.ต.อ.พิเชษฐ จีระนันตะสิน รักษาการ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเดินทางมาควบคุมการทำแผนกล่าวว่า สาเหตุที่เกิดขึ้นเพราะวัยรุ่นทั้งสองกลุ่มดื่มสุรามา จึงควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ เมื่อขี่รถมาเฉี่ยวชนกันจึงเกิดมีปากเสียงกันขึ้น ขณะที่ผู้เสียชีวิตไม่ใช้คู่กรณีโดยตรง แต่ขี่รถติดตามเพื่อนที่ขี่รถเฉี่ยวชนกับผู้ต้องหา ก่อนจะมีการท้าทายให้ชกต่อยกัน ผู้เสียชีวิตจึงขี่รถติดตามมาเพื่อจะช่วยเพื่อนแต่กลับถูกแทงจนเสียชีวิต









