ตำรวจเมืองอุบลฯ บุกค้นแมนชั่น จับแก๊งคนจีน 166 คน ทำการปั่นหุ้นจีน ตร.ผลักดันกลับประเทศ เหตุไม่สามารถจับได้ กฎหมายไทยไม่ระบุความผิด
วันที่ 9 พ.ค. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.อุบลราชธานี พล.ต.ต.ธนิตศักดิ์ ศิริพัฒน์ธนภาค เข้าตรวจค้นแมนชั่นแห่งหนึ่ง ความสูง 3 ชั้น ตั้งอยู่ถนนชลประทาน-ท่าบ่อ ซอย 15 ต.ในเมือง อ.เมืองอุบลราชธานี
หลังได้รับแจ้งจากประชาชนว่ามีกลุ่มชาวจีนทั้งหญิงและชายจำนวนมาก มาเปิดห้องพักอาศัย และผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมาใช้บริการเครื่องอินเตอร์เน็ตออนไลน์ไปยังที่ต่างๆ อย่างน่าสงสัย โดยบางรายถึงกับซื้ออาหาร เครื่องดื่มมานั่งรับประทานระหว่างเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต
เมื่อเข้าตรวจค้น พบชาวจีน อายุระหว่าง 20-40 ปี จำนวน 166 คน อยู่ในแมนชั่น กำลังออนไลน์อยู่กับเครื่องคอมพิวเตอร์บริเวณชั้นล่าง จำนวน 119 เครื่อง และที่ห้องโถงชั้นที่ 3 มีการติดตั้งเครื่องคอมพิวเตอร์ไว้อีกจำนวน 76 เครื่อง โดยคอมพิวเตอร์ทั้งหมดมีการลงโปรแกรมใช้ดูตารางหุ้นของตลาดหุ้นในประเทศจีน และติดกับห้องคอมพิวเตอร์ชั้นที่ 3 พบเป็นห้องประชุมขนาดความจุคนได้ 150-200 คน
จึงเข้าควบคุมตัวชาวจีนทั้งหมดไว้ พร้อมขอตรวจสอบเอกสารการเข้าเมืองพบว่า ทั้งหมดมีพาสปอร์ต เดินทางมาจากหลายเมืองของประเทศจีน เพื่อเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศ โดยเดินทางเข้าประเทศไทย เมื่อประมาณต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา
และจากการสอบถามคนจีนเหล่านี้ ให้การว่า ได้รับการว่าจ้างจากนายทุนชาวจีน ให้มาปั่นหุ้น (เทรดหุ้น) โดยให้มาพักอาศัยอยู่ที่แมนชั่นดังกล่าวบริเวณชั้นที่ 2 และชั้นที่ 3 ห้องละ 4 คน และได้ค่าตอบแทนคนละ 15,000 บาท ต่อเดือน ซึ่งได้เข้ามาทำการปั่นหุ้นยังไม่ถึง 1 เดือน เจ้าหน้าที่ตำรวจก็บุกเข้าตรวจค้น
สำหรับวิธีคือ ก่อนเปิดตลาดหุ้นของประเทศจีนในแต่ละวัน จะมีการประชุม เพื่อรับคำสั่งจากนายทุนให้คนทั้งหมดจับตาไปที่หุ้นตัวไหน หลังจากนั้น จะได้รับคำสั่งให้เข้าไปทำการสั่งซื้อหุ้น โดยแต่ละคนจะได้รับแจกโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง พร้อมซิมแบบใช้อินเตอร์เน็ต 6-8 ซิม ต่อคน เพื่อใช้ในการสั่งซื้อหุ้น หลังจากซื้อหุ้นตัวนั้นไปแล้ว ก็จะได้รับคำสั่งให้ทำการขายหุ้น เมื่อหุ้นมีราคาสูงขึ้นแล้ว โดยแต่ละวัน กลุ่มคนจีนเหล่านี้มีหน้าที่ทำตามคำสั่งจากนายทุน ที่จะโทรศัพท์สั่งการเข้ามาผ่านหัวหน้าสาย
เบื้องต้น พนักงานสอบสวนยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาใดกับกลุ่มคนจีน เนื่องจากไทยยังไม่มีกฎหมายการปั่นหุ้นข้ามประเทศ จึงได้ทำบันทึกปากคำและทำประวัติคนจีนกลุ่มนี้ ก่อนผลักดันออกนอกประเทศ เมื่อครบกำหนดวันเดินทางเข้ามาอยู่ในประเทศไทยแล้ว
