จับแก๊งอ้างเป็น ป.ป.ส. อุ้มฆ่าหนุ่มลีซอ ทวงหนี้ยาเสพติด 10 ล้าน

จับแก๊งอ้างเป็น ป.ป.ส. อุ้มฆ่าหนุ่มลีซอ ทวงหนี้ยาเสพติด 10 ล้าน

จับแล้วแก๊งอ้างเป็น ป.ป.ส. อุ้มหนุ่มลีซอสวมกุญแจมือฆ่าโหด เผยรับจ้างทวงหนี้ยาเสพติด 10 ล้านบาท

จากกรณี นายอาเล ลีวัวะ หนุ่มลีซอ อายุ 36 ปี ที่ถูกคนร้ายล็อกกุญแจมือมัดติดกับต้นไม้ และใช้ลวดรัดปากจนเสียชีวิต ก่อนทุบหัวฆ่าโหดบริเวณสวนเชิงเขาบ้านป่าบงงาม ม.11 ต.เมืองนะ  อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 26 ก.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งภรรยาผู้ตายเล่าว่าคนร้ายไว้ผมรองทรง พูดสำเนียงภาษากลาง อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. นำหมายจับคดียาเสพติด เข้ามาใส่กุญแจมืออุ้มตัวนายอาแลไป ขณะกำลังทำไร่ถั่วลิสงอยู่ในหมู่บ้าน

ต่อมาชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ และ สภ.นาหวาย ได้เร่งสืบสวนหาตัวคนร้าย โดยแกะรอยจากกล้องวงจรปิดในพื้นที่ใกล้เคียงจุดเกิดเหตุ จนพบว่ารถกระบะยี่ห้อฟอร์ด สีเทา หมายเลขทะเบียน ผค 6735 เชียงใหม่ เป็นรถที่กลุ่มคนร้ายใช้ก่อเหตุ มีนายสุทัศน์ จันทวงค์ เป็นผู้ใช้รถคันนี้ โดยนายสุทัศน์มีประวัติเคยต้องโทษคดียาเสพติด พ้นโทษออกมาปี 2556 และอยู่ในบัญชีบุคคลเฝ้าระวังที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด และการเฝ้าติดตาม

ทำให้ตำรวจทราบว่าวันที่ 10 ต.ค. นายสุทัศน์จะเดินทางมาทำธุระที่บ้านป่าแคโยง หมู่ 5 ต.หนองผึ้ง อ.สารภี จ.เชียงใหม่ จึงได้ไปดักขอตรวจรถยนต์ และสอบถาม จนผู้ต้องสงสัยยอมรับสารภาพ ตำรวจจึงนำตัวไปทำการสอบสวนที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พร้อมกับชี้แผนผังเครือข่ายผู้ร่วมก่อเหตุ

ด้านนายสุทัศน์ยอมรับสารภาพว่า เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของนายอาแลจริง โดยได้รับการว่าจ้างจากเครือข่ายยาเสพติดกลุ่มว้า ฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน และชาวลีซอ ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง เป็นเงิน 5 แสนบาท ให้ไปอุ้มนายอาเล ผู้ตาย ไปรีดเอาเงินค่ายาเสพติดที่ผู้ตายค้างชำระกลุ่มผู้จ้างวานเป็นเงิน 10 ล้านบาท ต่อมาตนจึงติดต่อนายฉลอง สมเพชร และ นายพงษ์ชัย เพชรน้อย อายุ 37 ปี ที่รู้จักกันขณะต้องโทษจำคุกที่เรือนจำคลองเปรม ให้มาร่วมก่อเหตุ

ในขณะก่อเหตุนายฉลอง และนายพงษ์ชัย ใช้ปืนจี้ผู้ตายจากไร่ถั่วลิสง บังคับใส่กุญแจมือ นำตัวขึ้นไปบนยอดเขา โดยมีชายชาวลีซออีก 2 คน เป็นคนชี้เป้า และมีชายชาวไทยใหญ่อีก 1 คน ร่วมกระทำผิด แต่ปรากฏว่านายอาเลผู้ตายไม่ยอมให้เงิน 10 ล้านบาท จึงร่วมกันใช้ลวดมัดปาก รัดจนเสียชีวิต แล้วหลบหนีไป จากนั้นไปรับเป็นค่าจ้าง 5 แสนบาท นำไปแบ่งกัน และแยกย้ายกันหลบหนี กระทั่งถูกจับ

พล.ต.ต.ภาณุเดช บุญเรือง รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เปิดเผยว่า ผู้ตายมีพฤติกรรมต้องสงสัยเกี่ยวข้องกับยาเสพติด โดยเมื่อประมาณหนึ่งปีที่ผ่านมา ตำรวจเคยเข้าตรวจค้นที่บ้านของนายอาเล พบทองรูปพรรณเก็บไว้กว่า 50 บาท ขณะที่รอบบ้านยังติดกล้องวงจรปิด ซึ่งทรัพย์สินที่มาเกินฐานานุรูปจากอาชีพทำการเกษตร และกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งรอบบ้าน ทำให้นายอาเลถูกจับตาอยู่ กระทั่งมาถูกฆ่าเสียชีวิตดังกล่าว

คดีนี้ตำรวจจะขยายผลจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ที่คาดว่าจะมีอีกไม่ต่ำกว่า 3 คน เพราะไม่ว่าจะมีสาเหตุมาจากเรื่องยาเสพติด แต่การฆ่าผู้อื่นเป็นความผิดตามกฏหมาย

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง