สอบปากคำ 4 วัยรุ่นรุมทำร้ายคู่อริรับก่อเหตุจริง ตำรวจสั่งให้กล่าวขอโทษพ่อที่มาร่วมรับฟังเนื่องในวันพ่อ แต่คาดโทษถ้าเกิดเหตุซ้ำอีกจะดำเนินคดีผู้ปกครองด้วย
กรณีกล้องวงจรปิดหน้าร้านจันกะพ้อคาเฟ่ ถนนเจริญประเทศ ตำบลช้างคลาน อำเภอเมืองเชียงใหม่ บันทึกเหตุการณ์กลุ่มวัยรุ่นหลายสิบคน ขี่รถจักรยานยนต์ติดตามคู่อริที่เกิดเขม่นกัน ก่อนเข้ารุมทำร้ายจนคู่กรณีตกลงจากรถจักรยานยนต์และใช้ขวดเบียร์ฟาดที่ศีรษะจนได้รับบาดเจ็บ แล้วแยกย้ายกันหลบหนี เมื่อเวลา 03.00 น. ของวันที่ 1 ธ.ค. ต่อมาชุดสืบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่แกะรอยภาพจนทราบตัวกลุ่มวัยรุ่นและขออนุมัติศาลออกหมายจับวัยรุ่นที่ก่อเหตุรวม 4 คน ทั้งหมดเป็นเยาวชนอายุ 16 ปี
วันที่ 4 ธ.ค. ช่วงค่ำ พ.ต.อ. ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ สอบปากคำวัยรุ่นทั้ง 4 คน พร้อมเชิญตัวผู้ปกครองมาร่วมสอบปากคำด้วย ทั้งหมดรับสารภาพว่าร่วมกันก่อเหตุรุมทำร้ายคู่อริจริง ขณะที่ผู้ปกครองระบุว่า พยายามเข้มงวดกวดขันกับลูกแล้วแต่ก็ไม่สามารถห้ามปรามได้ โดยคืนเกิดเหตุไม่ทราบว่าลูกได้ออกไปเที่ยวเตร่กับเพื่อนและไปก่อเหตุรุมทำร้ายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บ แต่หลังจากนี้จะเข้มงวดกวดขันและดูแลลูกให้มากขึ้น เพื่อไม่ให้ออกไปมั่วสุมก่อความวุ่นวายและชกต่อยทะเลาะวิวาทอีก
ขณะที่ พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ ได้อบรมวัยรุ่นทั้งหมด พร้อมกับให้ตัวแทนกลุ่มวัยรุ่นกล่าวขอโทษพ่อที่สร้างความวุ่นวายขึ้นจนครอบครัวได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากในวันพรุ่งนี้ (5 ธ.ค.) เป็นวันพ่อแห่งชาติ ซึ่งตัวแทนกลุ่มวัยรุ่นได้ยกมือไหว้และกล่าวขอโทษพ่อ พร้อมสัญญาว่าจะไม่สร้างความวุ่นวายอีก
หลังสอบปากคำเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหากับวัยรุ่นทั้ง 4 คน “ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ” จากนั้นนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนผู้ปกครองของเด็กทั้ง 4 คน จะสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง หากพบปล่อยปละละเลยก็จะดำเนินคดีกับผู้ปกครองเพิ่มเติมด้วย
พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ กล่าวอีกว่า วัยรุ่นทั้งหมดไม่ใช่แก๊งซามูไร ตามที่บางสื่อเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้ แต่ทั้งหมดเป็นเพียงกลุ่มวัยรุ่นที่มาร่วมตัวกันเที่ยวเตร่ มั่วสุม และ ก่อเหตุด้วยความคึกคะนองเท่านั้น ยืนยันว่าในจังหวัดเชียงใหม่ไม่มีแก๊งซามูไร
